ปรับใหญ่งานพ่อขุน 755 ปีเน้นน้อมรำลึก

วันที่ 23 ม.ค.59 ที่โรงแรมลักษวรรณ รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงราย นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายศักดิ์ชาย วงศ์กนิษฐ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นางอรอนงค์ เตชะมณีสถิตย์ นายกเหล่ากาชาด จ.เชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานฤดูหนาวประจำปี 2560 หรืองานพ่อขุนเม็งรายมหาราช ซึ่งเป็นงานประจำปีของ จ.เชียงราย ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อน้อมรำลึกถึงพ่อขุนเม็งรายมหาราชกษัตรย์ผู้สร้างเมืองเชียงรายและอาณาจักรล้านนาเมื่อวันที่ 26 ม.ค.1805 หรือ 755 ปีมาแล้ว โดยในปีนี้ทางจังหวัดมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ม.ค.จนถึงวันที่ 4 ก.พ.2560 ณ สนามบินเก่า (ฝูงบิน 416) อ.เมือง รวมเวลา 10 วัน 10 คืน ก่อนจัดงานในช่วงเช้าวันแรกจะมีการจัดพิธีสักการะพระบรมอัฐิพ่อขุนเม็งรายมหาราช ณ สถูปวัดดอยงำเมือง อ.เมือง

นายบุญส่ง กล่าวว่าการจัดงานในปีนี้จะมีความแตกต่างจากปีที่ผ่านๆ มาโดยจะเน้นการร่วมกันรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เป็นหลัก โดยมีนิทรรศการเพื่อน้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ส่วนภายในงานก็จะมีเนื้อหาเรื่องการเทิดพระเกียรติพ่อขุนเม็งรายมหาราชที่ได้ทรงสร้างเมืองเชียงรายจนมีอายุยาวนานมากว่า 755 ปี นิทรรศการจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ ทั้ง จ.เชียงราย โดยมีองค์ความรู้และเรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับการขับเคลื่อนและพัฒนาจังหวัด กิจกรรมมัจฉากาชาดและสลากสภากาชาด รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เดินทางไปเที่ยวชมกันอย่างหลากหลายเช่นเดิมซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวสามารถไปเที่ยวชมกันได้

นายศักดิ์ชาย กล่าวว่าในการจัดงาน ณ เวทีกลางภายในงานจะไม่มีการประกวดหรือกิจกรรมรื่นเริงเหมือนทุกปี แต่จะจัดให้มีการประกวดร้องเพลงและร้องเพลงลูกทุ่งโดยบุคคลหลากหลาย เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภรรยา โดยเพลงลูกทุ่งที่จะร้องจะเป็นเพลงที่เกี่ยวข้องกับการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์หรือเพลงพระราชนิพนธ์และงดการใช้หางเครื่องด้วย ส่วนการประกวดธิดาดอยนั้นถือเป็นการสนับสนุนทางด้านวัฒนธรรมจึงยังคงมีการจัดตามปกติ ขณะที่นิทรรศการต่างๆ ภายในงานจะมีมาจากทั้ง 18 อำเภอและหน่วยงานกว่า 20 องค์กรของจังหวัดที่เน้นเรื่องพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9

ด้านนางอรอนงค์ กล่าวว่าสำหรับกิจกรรมของกาชาดในปีนี้ยังคงมีรางวัลต่างๆ ที่จะมอบให้กับผู้ที่่ร่วมกันทำบุญมากกว่าทุกปี เช่น รถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 20 คัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีของดีจากทั้ง 18 อำเภอที่นำมาร่วมกันทำบุญซึ่งรายได้ทั้งหมดจะนำไปใช้เพื่อการกุศลต่อไป.

///