รวบสาวประเภท 2 ขังสุนัขกว่า 100 ตัวอ้างเก็บมาเลี้ยงจากข้างทางเพราะสงสาร

79
5
เวลา 11.30 น.วันที่ 25 ก.พ.58 เจ้านห้าที่สนธิกำลังนำโดย นายสัตวแพทย์นิคม ดอกสลิด สัตวแพทย์ชำนางาน ปฏิบัติราชการแทนในตำแหน่งปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย พ.ต.ต.คเชนทร์ เชิดชูตระกูลทอง สวป.สภ.เมืองเชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน องค์กรพิทักษ์สัตว์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำหมายจากศาลจังหวัดเชียงราย ตรวจค้นบ้านเลขที่ 400/2 ม.19 ชุมชนรั้วเหล็กเหนือ เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย หลงจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการกักขังสุนัขเป็นจำนวนมากเอาไว้ เกรงว่าจะเป็นการทารุณสัตว์ นอกจากนี้ยังส่งกลิ่นเหม็นรบกวนผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง โดยบ้านดังกล่าวเป็นบ้านไม้สองชั้น ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ บริเวณรอบตัวบ้าน มีกรงเหล็กและไม้ ประมาณ 20 กรงมีสุนัขอยู่ภายในกรงละ 1-2 ตัว ซึ่งมีสุนักที่อยู่ภายในบ้านทั้งหมดประมาณ 100 ตัว
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น โดยมีนายสมพงษ์ คำพับ อายุ 59 ปี อ้างตัวเป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ โดยอ้างว่ากำลังจะพาสัตว์เลี้ยงย้ายไปอยู่ที่อื่น โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายศาล และการร้องเรียนของประชาชนบริเวณใกล้เคียง นายสมพงษ์ จึงยินยอม ให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น จากการตรวจค้นพบว่าสุนัขที่ถูกกักขังอยู่นั้นแต่ละตัวมีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป บางตัวผอม และเป็นโรคผิวหนัง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับนายสมพงษ์ว่าจะต้องนำสุนัขทั้งหมดไปดูแลที่อื่น เพราะนอกจากจะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเรื่องเสียงดังแล้วยังอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิ
ภาพสัตว์ โดยนายสมพงษ์ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดใดๆ และสุนัขทั้งหมดเป็นของตนจึงห้ามเจ้าหน้าที่ทำการขนย้ายสุนัขทั้งหมดออกไป จนเจ้าหน้าที่ต้องใส่กุญแจมือเอาไว้ จากการตรวจค้นภายในบ้านเจ้าหน้าที่ยังพบสุนัขที่ถูกทำสต๊าฟเอาไว้ 1 ตัว
นายสัตวแพทย์นิคม ดอกสลิด กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เคยเข้ามาตรวจสอบแล้วหลายครั้งแต่เจ้าของไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าไปดูแลสัตว์ โดยอ้างว่าจะย้ายออกไปจากพื้นที่ ซึ่งการเลี้ยงสุนัขจำนวนมากไว้ภายในบ้านหลังกล่าวนั้น ไม่ได้รับการดูแลที่ดีเพราะไม่มีระบบน้ำและไฟในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้นำสุนัขทั้งหมดไปดูแล ณ สถานที่ของเอกชนที่รับดูแลสัตว์ที่ อ.พาน จ.เชียงราย เป็นการชั่วคราวก่อน ส่วนการดำเนินการกับเจ้าของบ้านนั้นเบื้องต้นเมื่อพิจารณาเรื่องการกักขังสัตว์ให้อยู่ในที่แคบๆ โดยบางตัวยืนอยู่ในกรงลักษณะนี้มานานหลายเดือนหรือเมื่อดูจากสภาพร่างกายก็น่าจะเข้าข่ายดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์
ด้านเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านติดกันได้กล่าวว่า ตลอดหลายปีที่นายสมพงษ์นำสุนัขมาเลี้ยงในบ้านจะมีเสียงสุนัขเห่าหอนทั้งกลางวันและกลางคืนทำให้ไม่สามารถอยู่บ้านได้เพราะเสียงดังมากจนต้องย้ายไปอยู่บ้านญาติ เมื่อ ไปสอบถามก็ถูกต่อว่าอ้างว่าเป็นญาติกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเคยร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเกี่ยวกับปัญหาสัตว์จรจัดมาแล้ว ทำให้ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงก่อรั้วในด้านที่ติดกับบ้านนายสมพงษ์ให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันเสียงดัง ขณะที่เสียงที่ดังจากบ้านพบว่านอกจากเสียงเห่าหอนยังเป็นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของสุนัขบางทีมีเสียงตีจนสุนัขร้องจนหมดเสียง
โดยนายสมพงษ์ เดิมทำงานเป็นคนส่งเสื้อผ้าชุดคาบาเร่อยู่ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และได้ย้ายมาอยู่ จ.เชียงราย โดยไปเช่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่มาได้นานประมาณ 6 ปี โดยได้นำสุนัขจรจัดที่อยู่ตามข้างถนนมาเลี้ยงเพราะความสงสาร บางครั้งก็มีคนนำไปฝากเอาไว้จนมีสุนัขออยู่เต็มบ้าน ซึ่งที่ทำไปเพราะความเมตตาต่อสัตว์ สำหรับอาหารการกินก็ต้มข้าวให้  แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา น้ำและไฟที่บ้านถูกตัดจึงมีสภาพดังกล่าว ซึ่งอยู่ในช่วงที่กำลังจะย้ายสุนัขไปอยู่ที่ใหม่แต่เพราะมีสุนัขอยู่หลายตัวจึงต้องใช้เวลาบ้าง

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.