วันนี้ (8 มี.ค.) ที่ห้องประชุมกาสะลองคำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) จ.เชียงราย พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เดินทางไปมอบนโยบายและมาตรการการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวและแก้ไขปัญหาแหล่งท่องเที่ยวแก่ตำรวจหน่วยงานต่างๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ใน จ.เชียงราย เช่น ตำรวจภูธรทั้ง 24 สถานี ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตำรวจทางหลวง ฯลฯ รวมทั้งมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและนักศึกษาเข้าร่วมรับฟังด้วย ซึ่งทาง พล.ต.อ.วุฒิ ได้ให้แต่ละหน่วยรายงานสถานการณ์และผลการปกิบัติตามมาตรการ 10 กลุ่มต้องห้าม เช่น ทัวร์ด้อยคุณภาพ หลอกลวงให้ซื้อสินค้า สถานบริการผิดกฎหมาย ฯลฯ และ 10 ข้อหาต้องห้ามในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ขับรถบนทางเท้า ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ฯลฯ
ซึ่งทาง ภ.เชียงราย แจ้งว่าในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าไปยัง จ.เชียงราย จำนวน 2,424,700 คน และชาวต่างชาติจำนวน 537,617 คน และตั้งแต่เดือน ต.ค.2558-ก.พ.2559 มีการเดินทางผ่านด่าน ตม.ต่างๆ เข้ามารวมจำนวน 1,204,594 คน และเดินทางออก 1,191,685 คน เพิ่มขึ้น 50.60% โดยเป็นชาวจีนที่ทะลักเข้ามามากถึง 49,240 คน และออกไปจำนวน 48,743 คน ส่วนใหญ่เข้ามาทางรถยนต์ผ่าน สปป.ลาว-สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงของ จ.เชียงราย ในปีที่ผ่านมายังมีคดีอาชญากรรมเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมกันแล้วจำนวน 6 คดี และกรณีอุบติเหตุกับนักท่องเที่ยวจีนที่ทะลักเข้ามามากในช่วงนี้พบว่าตั้งแต่ ม.ค.2558-7 มี.ค.2559 มีจำนวน 9 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 คน ขณะที่ ตม.เชียงราย แจ้งว่าที่ด่านพรมแดน อ.แม่สาย มีนักท่องเที่ยวและประชาชนทั้งไทยและเมียนมาเดินทางเข้าออกในปี 2558 กว่า 3 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละกว่า 9,000 คน
ขณะที่ ตม.เชียงแสน ซึ่งรับผิดชอบ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ แจ้งว่านักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากในอัตรา 1 ต่อ 3 ของการเดินทางเข้ามาทั้งหมดโดย 70-80% มากับบริษัทนำเที่ยวมากกว่ารถยนต์ส่วนตัว สำหรับภาพรวมแล้วมีนักท่องเที่ยวเข้ามารวมกันในปี 2558 จำนวน 231,600 คน ออกไปจำนวน 276,967 คน ส่วนปี 2559 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมกันแล้วจำนวน 58,141 คน และออกไปจำนวน 69,664 คน สำหรับกรณีคนจีนที่ทะลักเข้ามามากพบว่าในปี 2558 มีเข้ามามากกว่า 58,361 คน ออกไปจำนวน 56,864 คน และปี 2559 มีเข้ามาแล้วจำนวน 9,203 คน ออกไปจำนวน 27,354 คน ซึ่งเป็นผลทำให้มีการนำพาหนะเข้ามามากโดยสถิติตั้งแต่ ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมาพบว่ามีรถยนต์เข้ามารวมกัน 13,346 คัน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนจะทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก
พล.ต.อ.วุฒิ กล่าวว่า ตร.ให้ความสำคัญกับจังหวัดท่องเที่ยวในประเทศไทย 31 จังหวัดและจะเข้าไปดำเนินการเร่งด่วนก่อนจำนวน 18 จังหวัดเรียงตามลำดับนักท่องเที่ยวมากถึงน้อย เช่น ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ ฯลฯ และหนึ่งในจังหวัดนำร่องคือ จ.เชียงราย โดยเฉพาะเมื่อเกิดคดีอาชญากรรมฆ่าและข่มขืนที่เกาะกูด จ.ตราด เมื่อเร็วๆ นี้ทำให้ต้องรีบดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะมีกับการท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน โดยให้แต่ละท้องที่เข้มงวดเรื่อง 10 กลุ่มต้องหามและ 10 ข้อหาต้องห้ามดังกล่าว และหากพบว่าท้องที่ใดมีคดีอาชญากรรมร้ายแรงกับนักท่องเที่ยวจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อบกพร่องกับผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบและตรวจดูว่าแต่ละระดับชั้นขั้นไปควรร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่ รวมทั้งตรวจไปถึงตำรวจในท้องที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยว เช่น ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ฯลฯ ด้วย เพราะต้องแยกระหว่างหน้าที่ในการคลี่คลายคดีที่ต้องทำอยู่แล้วกับการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุด้วย
พล.ต.อ.วุฒิ กล่าวอีกว่ากรณีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามามากนักก็ให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดเรื่องกฎหมายจราจรไทยอย่างต่อเนื่อง และได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกว่าประมาณ 1 เดือนจะมีประกาศกระทรวงคมนาคมออกมาดำเนินการกับรถยนต์ท่องเที่ยวชาวจีนที่ทะลักเข้ามา เช่น ต้องมีเอกสารเกี่ยวกับรถ ข้อมูลเส้นทางท่องเที่ยว ระยะทาง ระยะเวลา ใบขับขี่สากลที่ต้องนำไปแปลเพื่อแยกประเภทที่สำนักงานขนส่ง ฯลฯ คาดว่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น สำหรับช่วงนี้ให้เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยที่อาจอยู่ต่างท้องที่หรือหน่วย เช่น ตำรวจภูธร ตม.ท่องเที่ยว ฯลฯ ได้ประชุมหารือกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และรายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้เป็นการนำร่อง จากนั้นจะดำเนินการเรื่องกิจการภายใน เช่น รถเช่า สถานบริหาร ฯลฯ ให้ถูกระเบียบต่อไปด้วย.
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.