วันที่ 23 มิ.ย.64 การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อ.เมือง จ.เชียงราย ทางโรงพยาบาลได้มีแถลงการณ์ว่ามีบุคลากรโรงพยาบาลที่ติดเชื้อจนถึงเวลา 10.00 น.จากการตรวจเชิงรุกจำนวน 266 คน พบบุคลากรติดเชื้เพิ่ม 2 คน ทำให้มีจำนวน สะสด 41 คน พบมีอาการเล็กน้อย ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ภายหลังจากตรวจพบเชื้อทางโรงพยาบาลได้คัดแยกเจ้าหน้าที่เข้าสู่กระบวนการรักษาทันที พร้อมทั้งสอบสวนโรคและนำเข้าสู่กระบวนการป้องกันการระบาด ล่าสุดโรงพยาบาลยังได้กำหนดมาตรการให้พื้นที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมเป็นพื้นที่ควบคุมและงดรับผู้ป่วย ส่วนญาติสามารถเฝ้าไข้ได้เพียง 1 คนโดยน้นให้เป็นคนเดิมและงดเยี่ยมทุกกรณี
โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จำเป็นต้องปรับการให้บริการลง 50% เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และเนื่องจากมีการปรับลดบริการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ประชาชนทั่วไปขอให้ไปใช้บริการเท่าที่มีความจำเป็นและอาจไม่ได้รับความสะดวกในการให้บริการ จึงขออภัยประชาชนมา ณ โอกาสนี้ กรณีจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง หรือแพทย์นัดให้พบยังสามารถเข้ารับบริการได้เช่นเดียวกับกรณีฉุกเฉินยังให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนบุคลากรโรงพยาบาลที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้กำหนดมาตรการในการป้องกันและเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด
โดยทาง ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” ได้โพสข้อความว่า “ฉีดแล้ว 2 เข็ม ติดได้ แพร่ต่อได้ และปอดอักเสบ ติดเชื้อบุคลากร สาธารณสุข ที่ รพ.เชียงราย 40 ราย ใน 40 ราย มีปอดอักเสบ 7 ราย 25/40 2 เข็ม sinovac 2/25 ปอดอักเสบ 3/40 1 เข็ม sinovac 1/3 ปอดอักเสบ 2/40. 1 เข็ม astr 4 รายไม่ได้วัคซีน
-ในบุคลากรที่ติดเชื้อโควิด 40 ราย 25 รายได้รับ sinovac แล้ว 2 เข็ม 3 ราย ได้รับ sinovac แล้ว 1 เข็ม 2 รายได้รับ astrazeneca แล้ว 1 เข็ม 10 ราย ไม่ได้รับวัคซีนใดๆ
-จากบุคลากรทั้งหมดที่ติดโควิด 40 ราย พบปิดอักเสบ 7 ราย 2 ราย ได้รับ sinovac แล้ว 2 เข็ม 1 ราย ได้รับ sinovac แล้ว 1 เข็ม 4 ราย ยังไม่ได้รับวัคซีนใดๆ
ฉีดครบแล้วก็ติดได้ ลงปอดได้ แพร่เชื้อได้ ต้องระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ความเสี่ยงรอบตัว “
นอกจากนี้ที่ อ.เวียงแก่น และสาธารณสุขเข้าไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงจากคลัสเตอร์ ต.ตับเต่า อ.เทิง อย่างต่อเนื่อง โดยจากการตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสูงล่าสุดจำนวน 89 ราย พบผู้ติดเชื้อจำนวน 5 ราย ทั้งหมดเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยในหมู่บ้านห้วยคุ ต.ปอ เจ้าหน้าที่จึงแยกไปทำการรักษาและเรงสอบสวนโรค ตั้งจุดตรวจบนถนนเชื่อมระหว่าง อ.เวียงแก่น กับ ต.ตับเต่า อ.เทิง จำนวน 3 จุด และตามหมู่บ้านต่างๆ คัดกรองคนเข้าออกหมู่บ้านอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.