วันที่ 21 ต.ค.58 ที่อาคาร พล.ค.อ.เภา สารสิน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จ.เชียงราย จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติตามรอยสมเด็จย่า 20 ไม่เคยลืม โดย รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี มฟล.นำคณาจารย์ พนักงานและนักศึกษาถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีภายใน มฟล.กิจกรรมยังมีการรับบริจาคโลหิตและนิทรรศการเทิดพระเกียติตามรอยสมเด็จย่า 20 ปีไม่เคยลืม โดย รศ.ดร.วันชัย บรรยายเรื่องการปลูกป่าสร้างคน ซึ่งทาง มฟล.มีความภาคภูมิใจที่ได้ใช้ข้อความว่า “เราภูมิใจที่มีในหลวง” ซึ่งเป็นข้อความที่บ่งชี้ถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์บูรพกษัตริย์ในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จย่าอันเป็นที่มาของการมี มฟล.ในการปลูกป่าสร้างคน จากนั้นศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ บรรยายพิเศษเฉลิมพระเกียรติเรื่่องตามรอยสมเด็จย่า 20 ปีไม่เคยลืม
ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง กล่าวว่า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชชนนีหรือสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทยมีที่มาจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยมีผู้ใดคาดคิดว่าจะกลายเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ โดยมีพระญาติดั้งเดิมที่ตามสืบเสาะได้น้อยมากแต่ได้ทรงบำเพ็ญความดีจนกระทั่งเมื่อคราวสวรรณคตมีประชาชนไปถวายสักการะพระบรมศพมากกว่า 3 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ที่เกิดจากการสั่งสมความดีที่พิสูจน์ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน ผ่านเหตุการณ์การใช้ชีวิตการเรียนวิชาพยาบาลที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การเลี้ยงดูพระราชโอรสและพระราชธิดาตามลำพัง ผ่านเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยในปี 2475 จนต้องย้ายไปประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และต่อมาจึงถึงยุครัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ตามลำดับ ภายใต้ความมุ่งมั่นที่ว่าเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีเพื่อจะได้ทำประโยชน์ต่อบ้านเมืองได้
โดยในปี 2510 ทรงกลับมาอยู่ประเทศไทยมากขึ้นและกรณีของ จ.เชียงราย ก็นับว่าเป็นบ้านหลังที่สองของพระองค์ที่ทรงสร้างพระตำหนักดอยตุงและพัฒนาโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ.ในเวลาต่อมาซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ปรากฎให้เห็นถึงผลดีที่สังคมไทยได้รับและเป็นหลักฐานของความใส่ใจของพระองค์ที่มีต่อ จ.เชียงราย ที่คนในยุคนั้นและคนรุ่นใหม่สามารถทราบได้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน
“พระองค์ทรงมีพระจริยวัตรที่งดงามที่เป็นที่ประทับใจต่อผู้คนทั่วไปหลายเรื่องจนกลายเป็นเอกลักษณ์ เช่น เย็บชุนกระเป๋าผ้าให้นักบินเฮลิคอปเตอร์ขณะที่ทำการบินส่งไปประกอบพระราชกรณียกิจตามพื้นที่หมู่บ้านต่างๆ มอบของเล่นให้แม่เพื่อให้นำไปมอบให้กับลูกๆ ที่บ้าน ทรงให้จัดทำหนังสือเกี่ยวกับคำสอนทางพระพุทธศาสนาเพื่อให้คนไทยทั้งในและต่างประเทศได้ศึกษาคำสอน ที่โดดเด่นคือการละความโกรธโดยให้ข้อคิดว่าเมื่อมีคนมาต่อว่าเราหากเป็นจริงก็ไม่ต้องโกรธเพราะเป็นเรื่องจริง ถ้าไม่เป็นจริงก็ยิ่งไม่ต้องโกรธจึงสรุปได้ว่าหากเราไม่ทราบเอาสิ่งที่คนอื่นว่ามาใส่ตัวก็ไม่จำเป็นต้องโกรธกับคำกล่าวนั้นๆ “ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง กล่าว
นอกจากนี้ภายในอาคารเภาสารสินได้มีการจัดนิทรรศการ และการรับบริจาคโลหิต การให้บริการตรวจโรคฟันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การให้บริการตรวจสุขภาพ และให้คำปรึกษาแก่ผู้สูงอายุ ณ ศูนย์ผู้สูงอายุ ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.