รวบ 2 คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างตระเวนก่อเหตุลักคอมเพรสเซอร์แอร์ทั่วเมืองขอนแก่น

ตำรวจขอนแก่น รวบ 2 คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างตระเวนก่อเหตุลักคอมเพรสเซอร์แอร์ทั่วเมืองขอนแก่น พบของกลางชำแหละชิ้นส่วนเก็บ 2 กระสอบ อ้างนำเงินไปใช้จ่าย

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ก.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์คอมเพรสเซอร์แอร์จำนวนหลายตัว ที่ศูนย์บริการหมอเส็งเฮิร์บช็อป เลขที่ 334 ม. 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างหรือรถซาเล้งมาจอดที่ด้านหน้าโดยมีหนึ่งในคนร้ายปีนข้ามกำแพงเข้าไปถอดเอาคอมเพรสเซอร์แอร์ส่งต่อให้กับคนร้ายอีกคนที่เป็นคนขับ ยื่นมือไปรับเอาคอมเพรสเซอร์แอร์ใส่รถซาเล้งก่อนจะพากันขับรถหลบหนีไป ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความกับตำรวจ สภ. เมืองขอนแก่น

ในเวลาต่อมา พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและชุดสายตรวจ นำหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ลงวันที่ 22 ก.ค.2568 เข้าจับกุมนายภานุพงษ์ หรือเบนซ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี และนายปฏิพล หรือตี๋เล็ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ภายในบ้านพักในชุมชนเทพารักษ์ 4 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นที่พักของผู้ต้องหา ในฐานความผิดร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไปและแจ้งสิทธิ์ผู้ต้องหา พร้อมทั้งทำการตรวจค้นภายในบ้านพักพบของกลางเป็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ซึ่งเป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุตรงตามกล้องวงจรปิด , ใบพัดคอมเพรสเซอร์แอร์ จำนวน 8 ใบ และอุปกรณ์ชิ้นส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนได้แยกชิ้นส่วนเก็บไว้ในกระสอบ จำนวน 2 กระสอบ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน

พ.ต.อ.ยศวัจน์ กล่าวว่า ภายหลังจากมีประชาชนหลายรายร้องเรียนและนำหละกฐานมาแจ้งความถึงเหตุคนร้ายตระเวนขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์อาคารและสถานประกอบการหลายแห่งในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.สร้างความเสียหายและเดือดร้อนอย่างหนักให้กับชาวบ้าน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสามารถสืบทราบตัวผู้กระทำความผิดและจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายเป็นเพื่อนสนิทกัน ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งต้องการหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงได้ลงมือก่อเหตุและนำชิ้นส่วนไปขาย ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะเร่งขยายผลสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาผู้ร่วมขบวนการ รวมถึงตรวจสอบความเชื่อมโยงกับคดีลักทรัพย์อื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกันต่อไป