วันนี้ (2 สิงหาคม 2568) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นประธานเปิดกิจกรรม “สัมมนาเสริมสร้างความเข้มแข็งภาษาและวัฒนธรรม เพื่อสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้” ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และมูลนิธิศูนย์ประสานงานตาดีกาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจด้านภาษาและวัฒนธรรมอันหลากหลายในพื้นที่ สู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและยั่งยืน
ในพิธีเปิด ได้รับเกียรติจาก พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ดร.อับดุลมูไฮมีน สาและ ประธานมูลนิธิศูนย์ประสานงานตาดีกาฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการอิสลามและหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ เข้าร่วมแสดงพลังร่วมกันในเวทีดังกล่าวอย่างคึกคัก
กิจกรรมนี้ถือเป็นหนึ่งในความพยายามของ ศอ.บต. ในการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม และอัตลักษณ์ท้องถิ่น ควบคู่กับการสร้างความเข้าใจระหว่างชุมชน เพื่อร่วมกันวางรากฐานแห่งสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในการนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า “ในวันนี้ ผมขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของภาษาและวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นรากเหง้าและอัตลักษณ์สำคัญของพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราต้องร่วมกันปกป้อง รักษา และเผยแพร่ ไม่ใช่เพียงจำกัดอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หากแต่ควรเป็นสมบัติร่วมของทุกคนในสังคม เช่นเดียวกับที่ภาษาอาหรับและภาษาจีนได้รับการส่งเสริมจนเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก
ผมขอชื่นชมกิจกรรมตาดีกา ที่ถือเป็นการพัฒนาเยาวชนอย่างลึกซึ้งและยั่งยืน เพราะเยาวชนคือผู้ที่หวังดีกับอนาคตมากที่สุด ดังนั้น การปลูกฝังภาษา วัฒนธรรม และศีลธรรมตั้งแต่วัยเยาว์ จึงเป็นภารกิจของพวกเราทุกคน ไม่ใช่เพียงของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือครูอาจารย์เท่านั้น แต่รวมถึงสังคมทั้งหมด
ผมขอขอบคุณและชื่นชมผู้นำศาสนา โต๊ะอิหม่าม โต๊ะครู และผู้นำในชุมชนทุกท่าน ที่มีบทบาทสำคัญในการร่วมกันรักษาภาษาท้องถิ่น ซึ่งบางครั้งอาจถูกมองว่าเป็นประเด็นด้านความมั่นคง แต่แท้จริงแล้ว ภาษาและวัฒนธรรมคือมรดกอันทรงคุณค่า ที่เราทุกคนต้องภูมิใจ และต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดการเผยแพร่ วิจัย และพัฒนา เพื่อส่งต่อสู่คนรุ่นต่อไป
นอกจากนี้ รมว.ยุติธรรม ยังได้หยิบยกชื่อของนักปราชญ์ที่เราทุกคนเคารพนับถืออย่าง ‘เชคดาวุฒิ’ ซึ่งเป็นแบบอย่างของภูมิปัญญาแห่งปัตตานี และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ยืนยันให้เห็นว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่นของเรามีคุณค่าในระดับโลก
ท้ายที่สุด รมว.ยุติธรรม ย้ำว่าสันติภาพและสันติสุขจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราสื่อสารกันอย่างเปิดใจ ด้วยภาษาที่เราเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะรัฐบาล ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้มาโดยตลอด และจะยังคงเดินหน้าส่งเสริมภาษา วัฒนธรรม และพัฒนาเยาวชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อว่า “นี่คือทางออกที่ยั่งยืนของสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้”