ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยังคงเดินหน้าอย่างจริงจัง ตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อผลักดันวาระ 120 วันกวาดล้างพืชกระท่อมให้เป็นรูปธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีกำหนดสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 กันยายนนี้
นายอิบรอเหม เบ็ญนา ผู้อำนวยการสำนักเลขานุการ ผอ.กสม.ศอ.บต. ได้ลงพื้นที่พบปะกับตัวแทนภาคเอกชนที่บริษัท ยะลาฮอนด้าคาร์ส สาขายะลา เพื่อรับฟังมุมมองและขอความร่วมมือในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญนี้
นางการเกต อัครพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยะลาฮอนด้าคาร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนจังหวัดยะลา ได้เห็นปัญหาเยาวชนจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเฉพาะพืชกระท่อมที่เข้าถึงง่าย และเห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลที่มองว่ากระท่อมเป็นภัยสังคม และเชื่อว่าการปราบปรามอย่างจริงจัง จะช่วยฟื้นฟูเยาวชนที่เป็นทรัพยากรของชาติได้อย่างถูกทาง
“ที่บริษัทก็มีพนักงานบางคนติดกระท่อมจนต้องให้พักงานไปบำบัด เพราะไม่มีคุณภาพในการทำงาน” นางการเกตกล่าว “จึงขอขอบคุณรัฐบาลที่มีนโยบายดี ๆ นี้”
นายอิบรอเหม เบ็ญนา กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดจะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ ปัญหากระท่อมที่แพร่ระบาดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยาเสพติดร้ายแรงอื่น ๆ เช่น ยาบ้า และเฮโรอีน ซึ่งจะทำลายทั้งสุขภาพ อนาคต และความสงบสุขของสังคมโดยรวม
“ขอให้ทุกคนตระหนักว่าปัญหายาเสพติดไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับผู้เสพ แต่ยังรวมถึงคนรอบข้างด้วย หากผู้เสพไม่มีเงินซื้อยา ก็อาจหันไปลักทรัพย์หรือปล้นทรัพย์เพื่อหาเงิน” นายอิบรอเหมย้ำ พร้อมขอบคุณบริษัท ยะลาฮอนด้าคาร์สที่ให้การสนับสนุนในการแก้ไขปัญหานี้
นอกจากนี้ พนักงานในบริษัท ยะลาฮอนด้าคาร์ส ยังได้สะท้อนความรู้สึกจากนโยบายดังกล่าว
นางสาวจันทร์ธิดา แซ่ลี้ ที่ปรึกษาการขาย กล่าวว่า รู้สึกดีใจและปลอดภัยมากขึ้น เมื่อขับรถกลับบ้าน เพราะพบเห็นการขายกระท่อมตามท้องถนนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ นายอิบรอเฮง เกะรา ช่างเทคนิค ยอมรับว่านโยบายนี้ เป็นสิ่งที่ดีมาก และหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์คลุ้มคลั่งจากยาเสพติดเกิดขึ้นอีกในอนาคต