เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่โลกออนไลน์มีหลายคนถูก “อายัดบัญชี” หลังต้องสงสัยกระทำผิดเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นพ่อค้า-แม่ค้าในเขตเทศบาโดยเฉพาะที่ภายในตลาดรถไฟ พบว่า พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ยกเลิกการรับโอนเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ใช้จ่ายด้วยการโอนมากขี้นจึงต้องยอมรับความเสี่ยงดีกว่าขายไม่ได้
นางสมหมาย ปาณะศรี อายุ 55 ปี เจ้าของร้านทุเรียนต้าวอ้วน กล่าวว่า เคยบอกลูกค้าว่ารับเงินสด แต่ลูกค้าปฏิเสธ ทำให้ที่ร้านพลาดโอกาสขายของจึงต้องจำยอมให้โอนเหมือนเดิมแต่ก็ยอมรับความเสี่ยงที่จะเป็นบัญชีม้าแต่ก็ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ปกติลูกค้าโอนเงินผ่านบัญชีต่อวันประมาณ 70-80% และ เงินสดน้อยมาก หากติดป้ายว่าไม่รับโอนจะกระทบมากกว่าเดิมเพราะลูกค้าจะไม่เข้าเลย
“ค้าขายก็ยากอยู่แล้วช่วงนี้ขายยากแล้วมาเจอปัญหาแบบนี้อีกพ่อค้าแม่ค้าก็ไม่รู้จะทำยังไง จำยอมรัฐบาลจะช่วยแก้ไขยังไงอยากให้เข้ามาแก้ไขโดยเร็ว คิดว่าการแก้ไขปัญหาตอนนี้แก้ไม่ตรงจุด อยากให้แก้ไขใหม่ขายของเหนื่อยทั้งแรงกาย ทั้งทุนได้แต่นอรับสภาพ หากวันนึงที่ร้านโดนอายัดบัญชีจะทำให้ร้านไปต่อไม่ได้ เพราะไม่มีเงินซื้อของมาขายอาจจะต้องหยุด”
ขณะที่ น.ส.ประภัสสร ศรีหาปัน อายุ 27 ปี เจ้าของร้านเจ๊เอทะเลขอนแก่น กล่าวว่า ทางร้านยังไม่งดรับเงินโอนแต่หากสถานการณ์รุนแรงกว่านี้ ต้องรอดูการแก้ไขอีกที ตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมเงินสดมามีแค่ใช้จ่ายผ่านการโอนในบัญชีเท่านั้นและในพื้นที่ใกล้เคียงยังไม่มีตู้กดเงินสดอีกด้วย
“ร้านค้าเสี่ยงสูงมากเพราะลูกค้ามากหน้าไม่รู้ว่าเงินที่ได้มา มาจากที่ไหนบ้างเส้นทางการเงินมาอย่างไร แต่ทางร้านยังเลี่ยงจุดนี้ไม่ได้ ถ้าหากแจ้งลูกค้าว่ารับแต่เงินสด ลูกค้าจะไม่อยากซื้อจะบอกปัดว่าไม่รับสินค้าแล้ว และไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาจุดนี้อย่างไรให้เร็วที่สุด การแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่างๆในตอนนี้เหมือนแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่า ถ้าหน่วยงานสามารถตรวจสอบได้ว่าบัญชีไหนคือบัญชีม้า ทำไมไม่อายัดบัญชีนั้น ทำไมต้องมาอายัดบัญชีพ่อค้าแม่ค้า ทำให้ได้รับผลกระทบเดือดร้อนเพราะ”
น.ส.ประภัสสร กล่าวต่อว่า คนทำมาหากินไม่รู้เรื่องด้วยอยู่แล้วว่าลูกค้าแต่ละคน คนไหนเป็นบัญชีม้าหรือรับเงินมาจากบัญชีม้า หากวันนึงเป็นที่ร้านโดนอาญัตติคงจะไม่มีเงินไปหมุนซื้อของ เพราะที่ร้านคือซื้อมาขายไปปรับตัวยากเหมือนเป็นการผลักภาระให้ประชาชนมานั่งตรวจสอบเอง คิดว่าคงต้องไปถอนเงินสดในบัญชีธนาคารส่วนหนึ่งมาเก็บไว้ถ้าโดนจริงๆ จะไม่มีเงินซื้อของมาขาย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขให้ไวที่สุดเพราะประชาชนเดือดร้อนมากจริงๆ