ปัญหาการบริโภคน้ำกระท่อมยังคงแพร่ระบาดในจังหวัดชายแดนใต้ ส่งผลกระทบทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะการดื่ม 4 คูณ100 ที่ผสมน้ำกระท่อมกับยาแก้ไอและน้ำโค้ก ขณะที่การปลดล็อกพืชกระท่อมกลับทำให้มีผู้บริโภคและผู้ค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลแก่ภาครัฐ และประชาชนเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่ ปฏิบัติการ 120 วันต้านพืชกระท่อม โดยเน้นพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ส่งผลให้ร้านขายกระท่อมริมถนนหลายแห่งในปัตตานีถูกสั่งปิด แสดงถึงกระแสต่อต้านที่เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่และโลกออนไลน์
ซึ่งทางนักเรียนของโรงเรียนในจังหวัดปัตตานี ที่ได้เข้าร่วมโครงการต่อต้านยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดไม่ว่าจะเป็นการอบรมทำความรู้จักถึงโทษภัยของการใช้ใบกระท่อมในทางที่ผิด การรณรงค์ของโรงเรียน รวมไปถึงการแสเงออกต่างๆ ที่บ่งบอกที่ถึงต่อต้านยาเสพติดทุกชนิด โดยโรงเรียนในจังหวัดปัตตานีได้เริ่มแสดงออกมาตลอดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
เฉกเช่นเดียวกับที่โรงเรียนเบจมราชูทิศปัตตานี ที่เป็นโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดเช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วงที่จัดกิจกรรมนั้น มีนักเรียนที่ได้ตอบคำถามที่คิดเห็นอย่างไรกับการขายใบกระท่อมริมถนนและจะมีวิธีการลดการขายยังไงบ้าง โดยนายฉันทพัฒน์ ทองแก้ว นักเรียนชั้น ม.4 ได้ตอบคำถามที่เป็นประเด็นดีๆ ออกมาว่า สำหรับตนคิดว่าใบกระท่อมหาซื้อง่ายจนเกินไป จนทำให้เด็กบางคนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่พอมีขายอยู่ทุกที่ก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย ส่วนวิธีแก้ปัญหาตนมองว่า อาจจะเพิ่มกฎหมายเข้ามาใหม่ เช่นใบขออนุญาตในการขายใบกระท่อม และในการซื้อขายใบกระท่อมต้องแสดงบัตรประชาชนทุกครั้งเพื่อยืนยันอายุที่แน่ชัด อีกทั้งร้านที่ขายใบกระท่อมต้องเป็นร้านสถานที่จริงๆ ไม่ใช่เป็นเพิงไม้ข้างทางริมถนน และที่สำคัญต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจที่ร้านอยู่เป็นประจำ