วาระ 120 วัน” แค่เสือกระดาษ? ชาวบ้านยะลาชี้ ตร.-สสจ. โยนกันไปมา ร้านกระท่อมยังขายเกลื่อนใกล้โรงเรียน

แม้ราชกิจจานุเบกษาจะประกาศมาตรการควบคุมและนโยบาย “วาระ 120 วัน” จะกำลังนับถอยหลังสู่โค้งสุดท้าย แต่ชาวบ้านในพื้นที่นครยะลาเผยว่า การบังคับใช้กฎหมายยังคงหละหลวม โดยพบร้านขายกระท่อมยังคงตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษาและประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาที่หน่วยงานรัฐ “โยนกันไปมา”
นางบุษยมาส อิศดุลย์ ประธานกลุ่มบ้านบุญเต็ม ซึ่งทำงานภาคประชาสังคมช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ถูกดำเนินคดี กล่าวว่า เธอไม่เห็นความเข้มงวดตามประกาศของราชกิจจาฯ เพราะในละแวกบ้านยังมีทั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนประถมที่มีร้านขายพืชกระท่อมและแผงลอยตั้งอยู่ด้านข้างอย่างเปิดเผย โดยบางร้านอยู่ห่างจากรั้วโรงเรียนไม่เกิน 100 เมตรด้วยซ้ำ
“การบังคับใช้กฎหมายยังไม่รัดกุมเท่าที่ควร” เธอกล่าว “พอเราลองโทรแจ้งไปที่ 191 ทางนั้นก็บอกว่าเป็นหน้าที่ของ สสจ. แต่พอโทรไปที่ สสจ. เขาก็ให้กลับไปแจ้งผู้บังคับใช้กฎหมายคือ 191 อีก ทำให้ชาวบ้านเบื่อหน่าย”
นางบุษยมาส ระบุว่าสถานการณ์นี้ทำให้ผู้ที่ต้องการเสพกระท่อมยังคงทำได้ตามใจชอบ แต่ในพื้นที่รอบนอกของ จ.ยะลา เริ่มเห็นป้ายรณรงค์จากแกนนำชุมชนที่กดดันให้รื้อร้านขายพืชกระท่อมและประกาศให้เป็นพื้นที่ปลอดการจำหน่ายน้ำกระท่อมแล้ว ตามนโยบาย 120 วันวาระพืชกระท่อม อยากให้ดำเนินการต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เธอยังชี้ให้เห็นว่าแหล่งจำหน่ายใหญ่ยังคงอยู่ในจังหวัดชุมพร โดยเฉพาะที่ “ท่าแซะ” ซึ่งเป็นจุดแวะพักของรถโดยสารประจำทางที่จะนำใบกระท่อมเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
“สิ่งเหล่านี้มันเหมือนการเขียนเสือ” นางบุษยมาส กล่าวทิ้งท้าย “เป็นแค่เสือกระดาษ เพราะมันวูบวาบแต่ไม่จริงจัง” เธอยังเตือนว่าการดื่มกระท่อมในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ และรัฐบาลอาจต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อรองรับผู้ป่วยจากน้ำกระท่อมในอนาคต ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่แตกต่างจากบุหรี่เลย