ด่านตรวจยาเสพติด ขานรับประกาศห้ามจำหน่ายใบกระท่อมทางสาธารณะ ใกล้สถานศึกษา พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย ฝ่าฝืนปรับ 5 หมื่นบาท

ที่ด่านตรวจยาเสพติด อ.จะนะ จ.สงขลา นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะการควบคุมการจำหน่ายพืชใบกระท่อมให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดสถานที่ วิธีการ หรือลักษณะต้องห้ามในการขายใบกระท่อม ซึ่งได้ประกาศไว้ใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 โดยมีคำสั่ง ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมในสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ในระยะห่างไม่เกิน 1 พันเมตร จากแนวรั้วหรือแนวเขตของสถานศึกษา และห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมโดยวิธีการหรือลักษณะหาบเร่ รถเข็นเร่ขาย รถยนต์เร่ขาย เรือเร่ขาย หรือเร่ขายในลักษณะอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและ เยาวชนสามารถเข้าถึงใบกระท่อมและน้ำต้มใบกระท่อมได้โดยง่าย ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีทางด้าน พตท.ประเสริฐ มณีโชติ สารวัตรป้องกันและปรามปราม สภ.ควนมีด จ.สงขลา ร่วมเสนอแนะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
โดยทางด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ มณีโชติ สารวัตรป้องกันและปรามปราม สภ.ควนมีด จ.สงขลา กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ประจำด่านได้เน้นการตรวจสอบในเรื่องของความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการตรวจสอบบุคคล อาวุธ หรือวัตถุระเบิด และยังรวมถึงการตรวจค้นยาเสพติดทุกชนิด ซึ่งด่านนี้ถือเป็นเส้นทางหลักที่จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ชายแดนใต้ ส่วนพืชใบกระท่อม ตั่งแต่มีการประกาศใช้มาตรการ 120 วันของทาง ศอ.บต. พบว่า การจำหน่ายและการขนส่งใบกระท่อมลดลง และเมื่อมีการประกาศใช้ห้ามจำหน่ายพืชใบกระท่อมในทางสาธารณ รวมถึงสถานศึกษา ทางเจ้าหน้าที่เองก็ได้บูรณาการร่วมทั้ง 3 ฝ่าย เพิ่มความคุมเข้มและตรวจสอบตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างจริงจัง ทางเจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติ เพื่อบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด
ทางด้าน นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. เปิดเผยว่า ปัยหาของยาเสพติดโดยเฉพาะปัญหาของพืชใบกระท่อม ทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะว่า ใบกระท่อมจะนำไปสู่ยาเสพติดประเภทอื่น ๆ ซึ่งที่ผ่านมาทราบมาว่าจะมีการขนถ่ายลำเลียงใบกระท่อมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกระท่อมเสรี จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเพราะปลูกได้ และมีการจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ทางด้านกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศว่า ในวันที่ 12 ต.ค.68 ห้ามมีการค้าขายพืชกระท่อมในลักษณะหาบเร่ แผงลอย แล้วก็ ห้ามจำหน่ายใกล้สถานศึกษาในรัศมี 1 พันเมตร ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนทางเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการเปรียบเทียบปรับ ไม่เกิน 5 หมื่นบาท จึงอยากจะฝากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในเรื่องนี้ ร่วมกันขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม เพราะว่า มีความสำคัญต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเรา เพราะพืชกระท่อมจะนำไปสู่ยาเสพติดชนิดอื่น ๆ ได้ง่าย และต้องขอชื่นชมทางเจ้าหน้าที่ตามด่านต่าง ๆ ที่มีความตั่งใจในการกำกับดูแล ทั้งในเรื่องของความมั่นคง ความปลอดภัย และ ยาเสพติด และเหลือเพียง 3 วัน ก็จะครบวาระ 120 วัน วาระพืชใบกระท่อม ในวันนี้เองรู้สึกว่า อารมณ์ความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีความรู้สึกร่วมในการแก้ปัญหาพืชใบกระท่อมอย่างจริงจัง ให้บรรลุผลร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวชี้วัด เพราะอารมณ์ร่วมของคนในพื้นที่ก็คือตัวชี้วัดที่เห็นได้ชัดในการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาพืชใบกระท่อม