วันที่ 29 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 (ฉก.ทพ.41) ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา นำโดย พ.อ.จตุพร ธานีพัฒน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 มอบหมายให้ ฝ่ายกิจการพลเรือน กองร้อยทหารพรานที่ 4113 และ หมวดทหารพรานหญิง ร่วมกับชุดเสริมสร้างความเข้าใจที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจยะลา พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 , หมู่ที่ 3 , ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน , ผูัช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.) และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) , ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กลุ่มจิตอาสาญาลานันบารู และ ชมรมดาหลา ได้ลงพื้นที่ เพื่อพบปะประชาชนและบุคลากรทางการศึกษา
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่บ้านโต๊ะปาเก๊ะ หมู่ที่ 2 และบ้านตาลาแน หมู่ที่ 3 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา โดยมี นักเรียนจากโรงเรียนตาดีกา ของศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิดอัลฟัลลาฮุลอามีลีน และสถาบันปอเนาะ เข้าร่วม เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติด รวมถึงชี้แจงข้อกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพืชกระท่อม ตามพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ.2565 และประกาศกำหนดสถานที่ วิธีการ หรือลักษณะต้องห้ามในการจำหน่าย พ.ศ.2568
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวห้ามจำหน่ายใบกระท่อมและน้ำต้มใบกระท่อมในรัศมีไม่เกิน 1,000 เมตรจากสถานศึกษา รวมถึงห้ามขายในลักษณะการเร่ขายหรือแผงลอย โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 ตุลาคม 2568 หลังตรวจสอบพบแนวโน้มการใช้ผิดวัตถุประสงค์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเดินหน้าสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของการใช้พืชกระท่อมเกินขนาด การเลิกใช้สารเสพติด และแนวทางบำบัดอย่างถูกวิธี เพื่อสร้างความมั่นใจและความอุ่นใจให้แก่ผู้ปกครอง ชุมชน และสถาบันการศึกษาในพื้นที่
ร.อ.สุทธิชา นาเพชร ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4113 เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนและเยาวชนเกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติดและพืชกระท่อม สืบเนื่องจากคำสั่งของ พ.อ.จตุพร ธานีพัฒน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ที่ได้มอบหมายให้กำลังพลในพื้นที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามนโยบายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งที่ผ่านมา หน่วยได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และภาคประชาชน ลงพื้นที่จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยยาเสพติดแก่เยาวชน ทั้งในสถานศึกษาของรัฐ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา และสถาบันปอเนาะ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งต่อสุขภาพตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคมในวงกว้าง
ร.อ.สุทธิชา ยังกล่าวอีกว่า ทางผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้เน้นย้ำว่า การแก้ปัญหายาเสพติดไม่สามารถดำเนินการเพียงลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างต่อเนื่องจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการผลักดันให้ผู้ที่ยังมีพฤติกรรมเสพสมัครใจเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูตามนโยบายภาครัฐ
สำหรับปัญหาพืชกระท่อม ซึ่งเป็นกระแสที่แพร่ระบาดในปัจจุบันนั้น เจ้าหน้าที่ได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดฉบับใหม่ พร้อมแสดงเจตนารมณ์จริงจังในการแก้ปัญหา