วันที่ 7 ต.ค. 68 เรื่องที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.วีรวุฒิ พุ่มไพรจิตร สว.ป. สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยภรรยา ลูกสาววัย 4 ขวบ และหลานสาววัย 11 ขวบ กับ 17 ปี พากันไปนั่งทานอาหารที่คาเฟ่แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงราย โดยคาเฟ่ดังกล่าวจะมีโซนเครื่องเล่นสนามสำหรับหรับเด็ก โดยจะมีการเก็บค่าบริการในเรทราคาสำหรับเด็ก 120 บาท/ชั่วโมง และผู้ใหญ่ราคา 200 บาท/ชั่วโมง ตนก็จ่ายค่าบริการให้เด็กคนละ 2 ชั่วโมง แต่เมื่อเล่นไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลานสาวคนเล็กอายุ 11 ขวบ มาบอกว่าหินสีที่อยู่ภายในบ่อหินเข้าไปในหู ซึ่งหลานเอาออกไปบางส่วนแล้ว แต่ยังมีบางอันที่ไม่ยอมออกมา ซึ่งหลานตนรู้สึกปวดหูเป็นอย่างมาก
พ.ต.ท.วีรวุฒิ เล่าต่อว่า หลังรู้ว่าหินสีเข้าไปในหูหลานสาว ตนจึงไปแจ้งพนักงานในร้านให้เขาแจ้งรถพยาบาลเพื่อให้พาหลานไปรักษา แต่คอยอยู่หลายนาทีก็ไม่มีรถพยาบาลมารับ ตนจึงไปสอบถามว่าทำไมรอนาน ก็ได้มีคนที่คาดว่าจะเป็นผู้จัดการคาเฟ่มาบอกตนว่า แจ้งเรื่องให้เจ้าของร้านแล้ว และทางเจ้าของเขามีเครื่องดูด กำลังเดินทางมาดูดออกให้ ตนเลยโต้แย้งว่าเจ้าของร้านไม่ใช่แพทย์จะมาเอาออกเองได้อย่างไร และให้เจ้าของร้านพาหลานไปส่งรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ แต่วันดังกล่าวเป็นวันอาทิตย์ ไม่มีแพทย์เฉพาะทาง จึงให้เจ้าของร้านพาไปที่ รพ.โอเวอร์บรู๊ค ซึ่งก็ไม่มีแพทย์เฉพาะทางเหมือนกัน จึงต้องได้นอนรอดูอาการเพื่อหมอมาเอาออกให้ในตอนเช้าวันจันทร์ ซึ่งทางตนก็เสียค่ารักษากว่า 1.5 หมื่นบาท แต่ทางครอบครัวมีประกันอุบัติเหตุ วงเงิน 10,000 บาทอยู่แล้ว แต่ค่าใช้จ่ายส่วนเกินอีกประมาณ 5 พ้นบาท ตนได้ลองติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของร้าน เขาก็จะให้ไปคุยที่ร้านของเขาอย่างเดียว ซึ่งอันที่จริงเงินจำนวนนี้ทางครอบครัวฝ่ายตนก็ไม่ได้จะติดใจอะไรหากในท้ายที่สุดเขาจะไม่ช่วยอะไรมาเลย เพียงแต่อยากสอบถามดูว่าเขาจะพอมีน้ำใจแสดงความรับผิดชอบอะไรมาบ้างหรือเปล่า
สว.ป. สภ.บ้านดู่ กล่าวต่อว่า ในความคิดส่วนตัวของตนคิดว่า ของเล่นจำพวกหินสีก้อนเล็กๆ และทราย ค่อนข้างจะเป็นอันตรายกับเด็กๆ เพราะมีโอกาสที่จะเข้าหู ปาก หรือ จมุก ของเด็กได้ โดยเฉพาะทราย ที่อาจจะเข้าตาเด็กได้ด้วย ตนอยากจะให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเรื่องการขออนุญาตเปิดสถานประกอบการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุข ได้เข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการที่มีเครื่องเล่นแบบนี้ ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือเปล่า และเครื่องเล่นแต่ละชนิดมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนด้วย เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ
