สืบภาค 4 รวบ 3 ผู้ต้องหาตระเวนขโมยอุปกรณ์ส่งและเสาสัญญาณ มือถือค่ายดัง สูญกว่า 5 ล้านบาท พบขายทางออนไลน์ ขายได้ปุ๊บปิดเพจปั๊บเพื่อเลี่ยงการจับกุม

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ต.ค.2568 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 (บก.สส.ภ.4) พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส รอง ผบช.ภ.4,พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สส.ภ.4,พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ รอง ผบก.สส.ภ.4และ พ.ต.อ.นุติ ศักดิ์สุภาพ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายสมพงศ์ หรือก็อต อายุ 42 ปี ชาว อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย, นายทะนงศักดิ์ หรืออ๋อง อายุ 27 ปี และนายสัญชัย หรือไอซ์ อายุ 22 ปี ชาว อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 จับกุมตัวได้ขณะกำลังแยกชิ้นส่วนแผงวงจรของกลางอยู่ภายในสวนยางพารา ไม่มีบ้านเลขที่ บ.โนนแก้ว ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ พร้อมของกลางรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมก สีบรอนท์เงิน หมายเลขทะเบียน กข-2334 มหาสารคาม ,บอร์ดประมวลผลสัญญาณไร้สาย จำนวน 20 ชิ้น,โมดูลรับส่งสัญญาณ จำนวน 103 ชิ้น,อุปกรณ์เน็ตเวิร์กสวิตช์ฮับ จำนวน 52 ชิ้น,แบตเตอรี่ลิเธียม จำนวน 11 ก้อน,ฝาครอบแผงวงจร จำนวน 29 ชิ้น,ลวดทองแดงนำหนัก 10 กก.,ชุดตัดแก๊สจำนวน 1 ชุดและถังแก๊ส 15 กก. คิดเป็นมูลค่าความเสียหายนวมกว่า 5 ล้านบาท

พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจาก บ.ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์เซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ว่าเกิดเหตุคนร้ายตระเวนลักทรัพย์อุปกรณ์ส่งสัญญาณโทรศัพท์ในเขต จ.สกลนคร,อุดรธานี,บึงกาฬและ จ.หนองคาย รวมกว่า 10 จุดส่งผลให้ระบบส่งสัญญาณล่มไม่สามารถใช้งานได้ จึงสั่งการให้ กก.2ฯเข้าทำการสืบสวนสอบสวนแกะรอยคนร้ายด้วยการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีจนกระมั่งพบรถยนต์กระบะ อีซูซุ เแมคสีบอร์นเงิน ติดป้ายทะเบียนปลอม ตรงกับรถต้องสงสัยจึงทำการสืบสวนสอบจับกุมได้ขณะกำลังแยกชิ้นส่วนวงจรของกลางอยู่ภายในที่พักกลางสวนยางพารา บ.โนนแก้ว ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ

“จากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเคยมีประวัติต้องโทษในคดียาเสพติด และมีพฤติการณ์ที่แต่งตัวเหมือนพนักงานและเลือกลงมือก่อเหตุเฉพาะจุดที่ตั้งอยู่ห่างไกลชุมชน โดยขับรถกระบะไปจอดแล้วใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กตัดเอาอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสาส่งสัญญาณมือถือไปและนำมาแยกชิ้นส่วนซึ่งจากการตรวนสอบพบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวนำเช้ามาจากต่างประเทศและมีราคาแพง และกลุ่มผู้ต้องหาเมื่อทำการแยกชิ้นส่วนแล้วก็ไปขายตามแหล่งต่างๆ โดยทองแดงขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า”

ผบช.ภ.4 กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้จะขายชิ้นส่วนพวกบอร์ด หรือกลุ่มแบตเตอรี่ลิเธียม ผ่านเพจหรือกลุ่มที่ค้าขายชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ และเมื่อขายแล้วก็จะปิดเพจหรือเฟซตัวเองทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการจับหรือการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบสวนแล้วเสร็จ จึงตั้งข้อกล่าวหาว่าลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ก่อนจะทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่ อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป