วันที่ 28 เม.ย.61 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยพล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภาค5 เดินทางมาร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดีกรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามลอบยิงนายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต อายุ 54 ปี กำนัน ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และประธานชมรมม้งแห่งประเทศไทย ขณะขับรถยนต์นำครอบครัวจะกลับบ้านบนถนนตะเข็บชายแดนไทย-สปป.ลาว บ้านร่มฟ้าทอง หมู่ 18 ต.ปอ จนทำให้นายทวีศักดิ์และลูกชายวัย 3 ขวบบาดเจ็บสาหัส ส่วนนางไหมเยีย วงค์นภาไพศาล ภรรยาและ ด.ญ.ธัญญาพร ยอดมณีบรรพต ลูกสาววัย 5 ขวบเสียชีวิตคาที่เหตุเกิดเย็นวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีพล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.องภาสกร ณ พิกุล ผกก.สภงเวียงแก่น ตำรวจชุดสืบสวนภาค5 ตำรวจชุดสืบสวนภุธรมเชียงราย ทตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ และหน่วยงานที่ข้องร่วมสรุปข้อมูล
โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประชุมนานกว่า 4 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ซึ่ง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ เปิดเผยว่าตนได้เดินทางมาเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดียิงนายทวีศักดิ์ กำนันตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค5 ได้คณะกรรมการสืบสวนสอบสวน โดยมอบหมายให้ทางพล.ต.ต.ชูรัตน์ เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี จากรายงานการประชุมข้อมูลการสืบสวนสอบสวนในห้วงหลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ได้ผลเป้นที่น่าพอใจ การสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปพอสมควร โดยการสอบสวนทางนายทวีศักดิ์ก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อรุปคดี ทำให้แนวทางสอบสวนที่ตั้งไว้ประเด็นสามารถตัดทอนเหลือที่ให้น้ำหนักมาที่สุดขณะนี้คือเรื่องของยาเสพติด
พล.ต.ท.พูลทรัพย์กล่าวว่านายทวีศักดิ์มีตำแหน่งเป็นกำนัน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ให้ความร่วมมือในการทำงานด้านยาเสพติด จากการปิดล้อมตรวจค้นของตำรวจทหารและฝ่ายปกครองในระยะที่ผ่านมาสามารถจับกุมยาเสพติดได้หลายครั้ง ซึ่งเป็นยาเสพติดที่ผ่านมาพื้นที่อำเภอเวียงแก่น ทำให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้รับความเสียหาย อาจจะเกิดความเครียดแค้นในตัวของกำนัน โดยเฉพาะสองคดีล่าสุดที่จับได้ในพื้นที่เวียงแก่นและพื้นที่ องเชียงคำ จังหวัดพะเยา ซึ่งทำให้พอทราบแล้วว่าเป็นกลุ่มไหนแต่ยังขาดพยานหลักฐานที่จะนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้ว่าเป็นใคร ซึ่งเป็นหน้านที่ของตำรวจที่จะต้องเร่งดำเนินการ โดยต้องรอการพิสูจน์หลักฐานให้มากกว่านี้ว่าเป็นคนในพื้นที่หรือนอกประเทศ
พล.ต.ท.พูลทรัพย์ทรัพย์กล่าวอีกว่าในส่วนประเด็นการคัดค้านประกาสเขตอุทยานนั้นทางตำรวจก้ไม่ได้ทิ้งเสียเลยทีเดียว แต่ให้น้ำหนักน้อยเพราะเป็นกรณีที่ไม่น่าจะทำให้ถึงขั้นที่จะต้องฆ่ากันถึงขนาดนี้ ส่วนประเด็นเรื่องการเลือกตั้งทางการเมืองโดยเฉพาะการเลือก ส.ส.นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะการเมืองยังไม่เคาะระฆังเลย สำหรับอาการของกำนันเองก็ดีขึ้นตามลำดับไม่น่ามีอะไรน่าห่วง อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังคงต้องดูแลด้านความปลอดภัยของทั้งตัวกำนันเองและทางญาติพี่น้องเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก โดยจัดกำลังตำรวจภูธรและตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ(นปพ.) เข้าดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.