ไฟไม้หนักดอยจระเข้ ใกล้ชุมชนแม่จันระดมจนท.-อาสาฯ นับพันเร่งสกัด

320

เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดไฟป่าลุกไหม้บนดอยจระเข้ ซึ่งเป็นแนวเขารอยต่อระหว่าง อ.เมือง กับ อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยไฟได้ค่อยๆ โหมลุกไหม้อย่างหนักบนภูเขาสูงในฝั่ง ต.ท่าสุด อ.เมือง จ. เชียงราย ก่อนที่ไฟจะลามข้ามเขตยอดเขาไปทาง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ทำให้ภูเขาทั้งลูกเต็มไปด้วยเปลวไฟ ซึ่งฝั่งด้าน อ.แม่จัน เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน โรงพยาบาลแม่จัน วัด ที่หนาแน่น และยังใกล้ หมู่ 5 หมู่บ้านป่าตึง บ้านผาตั้ง หมู่ 6 หมู่ 7 และหมู่บ้านป่ากุ่ม หมู่ 8 ต.ป่าตึง ขณะที่อยู่ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวต่างติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์บนดอยจระเข้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของถนนพหลโยธินใกล้สามแยกแม่จัน – แม่อาย และทางฝั่งทิศใต้ของถนนสายแม่จัน-แม่อาย เขต ต.ป่าตึง ที่อยู่ในเขตที่ไฟอาจจะลามไปถึงได้

 

 

พล.ต.สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จ.เชียงราย พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ได้นำกำลังเข้าประสานงานร่วมกับนางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน เพื่อเร่งสกัดกั้นไฟป่าดังกล่าวไม่ให้ขยายวงลามสู่เขตชุมชนหรือไปยังเขตป่าของ อ.แม่ฟ้าหลวง ที่อยู่ใกล้เคียงโดยป้องกันไม่ให้ไฟลามไปถึงเขตหมู่บ้านต่างๆ

 

 

ด้านนางวันดีได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ และอาสาสมัครดับไฟป่าจำนวนประมาณ 800 คน ตั้งจุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ ณ วัดป่าตึง ต.ป่าตึง เพื่อเตรียมระดมกำลังเข้าไปดับไฟอย่างเร่งด่วนเมื่อถึงเวลาฟ้าสางเนื่องจากไม่สามารถเข้าไปดับได้ในช่วงเวลากลางคืนเพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ทางฝ่ายทหารยังได้จัดเตรียมกำลังพลและเฮลิคอปเตอร์เอ็มไอ 17 และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าสนับสนุนซึ่งทาง อ.แม่จัน ได้เตรียมอ่างเก็บน้ำถ้ำเสือ หมู่ 8 ป่าตึง ที่มีความลึกประมาณ 3-5 เมตรรองรับแล้ว ขณะเดียวกันมีการตั้งศูนย์สื่อสารที่หมู่ 5 ต.ป่าตึง เพื่อประสานงานทุกฝ่ายโดยเจ้าหน้าที่ซึ่งมีทั้งชุดปฏิบัติการดับไฟป่า อาสาสมัคร ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ฯลฯ มีรวมกันประมาณ 1,000 คน เริ่มเข้าดับไฟป่าและตั้งแนวป้องกันด้วยรถดับเพลิงตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 15 เม.ย.62

 

 

พล.ต.สัชฌาการ ยังได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะฝ่ายตำรวจและทหารช่วยติดตามหาตัวคนกระทำความผิดด้วยการเผาป่าเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นสถานการณ์แปลกที่เกิดไฟป่าที่เกิดขึ้นทั่วจังหวัดตามอำเภอที่มีขุนเขาต่างๆ ขึ้นพร้อมกัน อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนและเชื่อว่าเกิดจากฝีมือคนลักลอบเผาเพราะไม่ได้มีฝนตกจนฟ้าผ่าหรืออื่นๆ อย่างแน่นอน ผลกระทบจากการเผารอบทิศทางดังกล่าวทำให้สภาพอากาศแย่ลงโดยมีปริมาณฝุ่นละอองและหมอกควันในอากาศเพิ่มขึ้นซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อส่วนรวมในที่สุด

 

 

ด้านหน่วยทหารพราน ร้อย.ทพ.3108 ฉก.ทพ.31 ทำการลาดตระเวนตรวจจุดเกิดไฟไหม้พบมีว่าได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและเข้าเผาไหม้ป่าและพื้นที่ทางการเกษตรเขตหมู่บ้านแม่เฟือง หมู่ 5 หมู่บ้านป่าตึง บ้านผาตั้ง หมู่ 6 หมู่ 7 และหมู่บ้านป่ากุ่ม หมู่ 8 ต.ป่าตึง มีพื้นที่เสียหายแล้วประมาณ 1000 ไร่.

 

 

 

 

 

 

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.