รพ.ขอนแก่น ท้าพิสูจน์อาคารกำจัดขยะติดเชื้อยันปลอดภัย ชี้ถูกกลั่นแกล้ง ขณะที ผอ.ฯขอหน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจโดยที่ไม่ใช่กรมอนามัยเพราะเป็นคู่ขัดแย้งกันโดยตรง

69

จากกรณีที่ เทศบาลนครขอนแก่น ได้เปิดเผยถึงข้อสรุปจากกรมอนามัย ในการตรวจสอบการกำจัดขยะติดเชื้อของ รพ.ขอนแก่น โดยพบว่า รพ.ขอนแก่น ดำเนินการผิดลักษณะ ใน 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วยการที่ รพ.ขอนแก่น ยังไม่ปฏิบัติตามที่กฎกระทรวงว่าด้วยการกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ.2545 และกลิ่นรบกวนในระดับ 4-5 ต้องหลีกเลี่ยงที่จะรับรู้กลิ่นที่ไม่เหมาะที่จะใช้เป็นอากาศหายใจ และผลจากการใช้เครื่องมือตรวจวัดความเข้มข้นกลิ่น พบเกินเกณฑ์มาตรฐาน และพบสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายและสารอะโครลีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้เกิดกลิ่น ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยใกล้เคียง โดยเทศบาลนครขอนแก่น ได้มีคำสั่งหยุดการกำจัดขยะและแก้ไขให้ถูกต้อง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา13.00 น.วันที่ 31 ส.ค.2566 ที่รพ.ขอนแก่น นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น เปิดเผยว่า ทราบเรื่องเจ้าหน้าที่กรมอนามัยมาตรวจสอบที่กำจัดขยะติดเชื้อของรพ.ขอนแก่น จากเทศบาลนครขอนแก่น และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จึงจะทำหนังสือแจ้งข้อสังเกตุที่พบจากโรงพยาบาลให้กับทางนายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่นเพื่อทราบและเพื่อความเข้าใจจากข้อสังเกตที่พบ คือผลการตรวจไม่เป็นน่าเชื่อถือ ไม่เป็นที่ยอมรับและน่าจะมีอคติ

“โรงพยาบาลพร้อมที่จะให้เทศบาลมาตรวจสอบ ให้เป็นไปตามมาตรฐานในระดับอุตสาหกรรมหรือมาตรฐานที่เป็นการยอมรับในระดับสากล โรงพยาบาลยินดีออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และพร้อมที่จะเชิญผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมสังเกตและให้คำแนะนำ เพราะโรงพยาบาลมั่นใจระบบที่ทำนี้ เป็นระบบที่ทำอย่างถูกต้อง ส่วนเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อถือ คือการเอาอาคารบำบัดนี้ มาเทียบเคียงกับอาคารสาธารณะไม่ได้ เพราะลักษณะสำคัญของอาคารสาธารณะ คืออาคารที่มีลักษณะปิดทึบและเป็นที่รวมของชุมชนรวมถึงเป็นระบบที่มีการระบายอากาศ มีเครื่องปรับอากาศ และโรงพยาบาลยังจะดำเนินการกำจัดขยะฆ่าเชื้อต่อไป เพราะยังไม่มีการสั่งการอะไรมาจากเทศบาลนครขอนแก่น เราจึงจะดำเนินการต่อ”

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า การที่กรรมการตรวจสอบมาวัดจุดต่างๆไม่ได้เข้าข่ายทั้ง 3 ประการ และจะนำมาเทียบเคียงกันไม่ได้และยังมั่นใจว่าการตรวจวัดไม่น่าเกินตามค่าที่ยอมรับได้ ถึงแม้จะตรวจในที่ตรงนั้น เพราะมีการระบายอากาศเป็นอย่างดี ทั้งยังจะล็อคเป็นช่วงเวลา ไม่ได้เปรียบเทียบเหมือนร้านไก่ย่างที่จะไปวัดช่วงเวลาที่กำลังทำอาหารอย่างเดียวไม่ได้ ต้องวัดตลอด 8 ชั่วโมงว่าค่ามันเกินหรือไม่ เพราะฉะนั้นการตรวจวัดจะต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ห้ามเลือกปฏิบัติแล้วมาบอกว่าระบบปฏิบัติแบบนี้ และสิ่งที่มาตรวจนั้น ควรจะตรวจในอาคารสาธารณะมากกว่าในโรงพยาบาล

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.