เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 ก.ย.2566 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่ กม.4 ถนนเส้นทางสายหลัก ตัดจาก ถ.มิตรภาพ ไปยัง อ.น้ำพอง และ อ.กระนวน ทรุดตัวลง 1 ช่องทาง ภายหลังมวลน้ำจากพายุฝนได้กัดเซาะชำรุดเสียหาย ตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวานที่ผ่านมา โดยพบว่าเจ้าหน้าที่จากแขวงทางหลวงที่ 1 และเจ้าหน้าที่จากศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 2 (ขอนแก่น) กรมทางหลวง ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและนำสะพานแบริ่ง ขนาดความยาว 30 เมตร มาวางในจุดที่ถนนทรุด เพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้สะดวก โดยมีนายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทยและนายชินกร แก่นคง นายอำเภอน้ำพอง ลงพื้นทีตรวจสอบความเสียหาย ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนผ่านจุดดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายอนุวัฒน์ เรืองเดชาวิวัฒน์ รองผู้อำนวยฝ่ายวิศวกรรม แขวงทางหลวงที่ 1 กล่าวว่า แขวงทางหลวงที่ 1 ได้รับการประสานจากทางอำเภอน้ำพองว่ามีถนนแตกและทรุดเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ จึงนำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาสำรวจ เพื่อซ่อมแซม ให้ถนนกลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยจุดดังกล่าวนั้นพบว่าถนนหายไป 1 ช่องทาง ยาวปะมาณ 12 เมตร จึงนำสะพานแบริ่ง ขนาดความยาว 30 เมตร มาวางในจุดที่ถนนทรุด ซึ่งการวางสะพานแบริ่งนั้น จะแล้วเสร็จและใช้งานได้ในวันนี้ ส่วนการซ่อมแซมถนนนั้น อยู่ที่กรมทางหลวงจะพิจารณาซ่อมในขั้นตอนต่อไป ซึ่งทางแขวงทางหลวงที่ 1 ได้รายงานความเสียหายให้ทราบแล้ว
ขณะที่นายสมบูรณ์ ดาเหลา อายุ 75 ปี ชาวบ้านห้วยไผ่ ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ถนนสายนี้มีปัญหามีนานหลายปีแล้ว ในปีที่น้ำท่วมใหญ่ก็เกิดปัญหาแต่ไม่มีการซ่อมแซม และนปีนี้เท่าที่ทราบ ชลประทานหนองหวายระบายน้ำเข้าคลองชลประทาน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้ และชลประทานเปิดประตูระบายน้ำ ส่งน้ำเข้าในพื้นที่ ลงตามลำห้วยต่างๆทั้งห้วยตับเต่า ห้วยหนองไผ่ ซึ่งมวลน้ำเหล่านี้จะผ่านท่อใต้ถนนสายน้ำพอง-กระนวน ที่ทรุดพังขณะนี้ ไหลลงสู่งลำน้ำพอง และถนนทรุดและพังใช้งานไม่ได้ เชื่อว่า มวลน้ำที่มีมากกว่าปกติเพราะฝนตกติดต่อกันหลายวัน แรงดันน้ำก็แรงกว่าปกติ ทำให้ดินและท่อใต้ถนนเคลื่อนตัวออกจากจุดเดิม เป็นสาเหตุทำให้ถนนพังก็เป็นได้ และทางอำเภอก็ปิดการใช้ถนนตั้งแต่กลางคืนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ และเชื่อว่า เมื่อกรมทางหลวงนำสะพานแบริ่งมาวาง ก็จะใช้ถนนได้ตามปกติ”
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.