วรวัจน์ จับมือ นพ.นิยม ขอมหาดไทยทบทวนกฎหมายผังเมือง แพร่ หลังได้รับผลกระทบ ถูกควบคุมไม่ให้พัฒนาเป็นจังหวัดอุตสาหกรรม หวั่นลามไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ
เมื่อบ่ายวันที่ 21 พ.ย. เวลา 13.10น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่เขต 3 พร้อมด้วย นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่ เขต 2พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวกรณีที่หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการและประชาชนในจ.แพร่ ได้รับผลกระทบจากการกำหนดผังเมืองใหม่ในจ.แพร่ว่า
พบกระบวนการทำงานของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตามกฏหมายผังเมืองใหม่ปี 2562 มีลักษณะเป็นการนำข้อมูลในอดีตมากำกับ และควบคุมการเจริญเติบโตของจังหวัด โดยไม่ได้ศึกษานโยบายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มาประกอบการวางยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่เน้นเรื่องเศรษฐกิจ การสร้างรายได้ รวมถึงการมองถึงอนาคตความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นเป้าหมาย โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคต ที่สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาล
เช่น นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ที่จะอบรมสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนถึง 20,000,000 ครัวเรือน วันนี้ จ.แพร่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการถูกควบคุมกำกับให้เป็นเมืองเพียงจังหวัดหัตถอุตสาหกรรม ไม่สามารถพัฒนารองรับทั้งการพัฒนารถไฟทางคู่ เมืองอุตสาหกรรมไม้สักจากป่าปลูก หรือการยกระดับสินค้าเกษตรสู่อุตสาหกรรมอาหาร ที่ต้องมีห้องเย็นด้วยได้เลย ซึ่งข้อจำกัดต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้เกิดเพียงจ.แพร่เพียงจังหวัดเดียว แต่รูปแบบการทำงานในส่วนของผังเมือง จะส่งผลกระทบไปทุกจังหวัดในประเทศไทย และกระทบต่อการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลใหม่อีกด้วย
นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการดำเนินการของผังเมืองที่ตนอยากเสนอ คือ 1. การวางผังเมืองควรต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ในแต่ละจังหวัดของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งหมายถึงการยกระดับผลิตภัณฑ์สู่ระดับอุตสาหกรรม เพื่อสร้างรายได้จากในประเทศและการส่งออก
2.การพัฒนาผังเมืองควรเปลี่ยนรูปแบบจากการเก็บข้อมูล เป็นรูปแบบของการประชุมระดมสมอง เพื่อวางแผนพัฒนาจังหวัดกับหอการค้าสภาอุตสาหกรรมกลุ่มเกษตรกร ประชาชนและหน่วยงานในจังหวัด
3.ควรนำนโยบายของรัฐบาลและข้อมูลการพัฒนาจากหน่วยงานของรัฐในแต่ละพื้นที่จังหวัด มาประกอบการพิจารณาจัดทำผังเมือง
4.การจัดทำผังเมืองควรมีรูปแบบที่สามารถปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้กับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไปได้โดยง่าย
5.ควรนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ โดยเฉพาะรูปแบบที่พัฒนาเป็น Digital Twin มาใช้ในการวางแผน จะทำให้สะดวกรวดเร็ว สามารถพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงของเมืองได้อย่างแม่นยำ
6.การปรับเปลี่ยนผังเมืองตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ควรจะมีขั้นตอนที่สามารถเร่งรัดได้ เช่น การพัฒนาระบบขนส่งเย็นและห้องเย็น เพื่อรองรับการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร ควรจะสามารถกำหนดได้เมื่อเป็นนโยบายของรัฐบาล
“ผมขอให้กระทรวงมหาดไทย และรัฐบาลทบทวนเกี่ยวกับกฎหมายผังเมือง และการดำเนินการตามกฎหมายผังเมืองที่เน้นเรื่องการอนุรักษ์มากกว่าการพัฒนา รวมถึงปรับปรุงขั้นตอน การจัดทำ และการแก้ไขผังเมืองที่มีขั้นตอนมาก ล่าช้า ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแนวคิดการพัฒนาของรัฐบาลใหม่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนผู้อยู่อาศัยในการวางและจัดทำหรือผู้ครอบครองที่ ดิน หรืออาคารที่ตั้งอยู่ผังเมืองรวมเมืองแพร่(ปรับปรุงครั้งที่3)จะได่รับผลกระทบพบว่าอยู่ในเขตท้องที่ ตำบลทุ่งโฮ้ง ตำบลแม่ยม ตำบลร่องฟอง ตำบลทุ่งกวาว ตำบลป๋าแมต ตำบลเหมืองหม้อ ตำบลในเวียง ตำบลกาญจนา ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ ตำบลเวียงทอง ตำบลร่องกาศ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่
โดยวันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.30- 12.00 น.ณ หอประชุมนพรัตน์ โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ ผู้อยู่ในเขตตำบลที่มีชื่อข้างต้นได้ให้ความสนใจร่วมแสดงความคิดเห็นตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.