รวบโจ๋วิ่งราว หลังก่อเหตุแล้วรถเสียหลักล้ม วิ่งหนีกลับสดุดขาตัวเองสลบอีก ผู้เสียหายเผยอธิฐานขอให้พระช่วย‏

ที่สภ.เมืองเชียงราย พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้นำตัวนาย อนุวัฒน์ เทพวัง อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 176 ม.10 ต.ดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา มาแถลงข่าวหลังจากที่ได้ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ของ นางจุรีภรณ์ คำธาร อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 27/2 ม.15 บ้านสันโค้งน้อย ต.รอบเวียง เมืองเชียงราย

โดยการเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 30 ต.ค.57 ศูนย์วิทยุตำรวจ สภ.เมือง เชียงราย ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์บริเวณ ถนนสันโค้งน้อย เขตเทศบาลนครเชียงราย และผู้เสียหายเป็นหญิงได้ขี่รถจักรยายนต์ติดตามค้นร้ายไป จนคนร้ายรถไปล้มบริเวณ ซ. 6 ถนนสันโค้งน้อย และได้รับบาดเจ็บ มีพลเมืองดี และเจ้าหน้าที่ชุดวายุภัค และตำรวจชุดสายตรวจจักรยานยนต์ รวบจับตัวใว้ได้ พร้อมของกลาง สร้อยคอทองทำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง  พร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสกู๊ปปีไอสีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 1 กก 7227 พะเยา ของคนร้าย หลังจากที่สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้วเจ้าหน้าที่ตำวรจได้นำตัวมา สภ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ผู้เสียหายมาชี้ตัว

โดยนางจุรีภรณ์ ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนกำลังเดินทางกลับจาก โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ไปรักษาโรคภูมิแพ้ ขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนสันโค้งน้อย มีรถจักรยานยนต์มาประกบข้างจากนั้นได้กระชากสร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยงทอง จากคอตนไป จนทำให้รถจักรยานยนต์ล้มลง แต่ก็ได้ตั้งสติรีบลุกขึ้น และขับรถจักรยานยนต์ติดตามคนร้ายไป พร้อมทั้งตะโกนให้ชาวบ้านช่วย  คนร้ายได้เลี้ยวรถเข้าไปในซอยเพื่อหลบหนี และเร่งเครื่องไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงได้พยายามตั้งจิตอธิฐานพระที่ถูกคนร้ายขโมยไป ซึ่งเป็นพระครูบาคำหล้า รุ่นปี 55 ซึ่งตนนับถืออย่างมาก  ขณะกำลังติดตามไปนั้นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายก็ได้เกิดเสียหลักล้มลง จากนั้นคนร้ายก็วิ่งหนีต่อไปได้ประมาณ 50 เมตร ก็สดุดขาตัวเอง ล้มหัวฟาดกับพื้นถนน สลบ ตนซึ่งไล่ตามมาติด ๆ ได้ตะโกนให้ชาวบ้านใกล้เคียงมาช่วยจับคนร้าย ซึ่งก็มีคนวิ่งมาช่วย จนจับคนร้ายและได้พระคืน ก่อนจะนำตัวคนร้ายส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนผู้เสียหายอีกรายคือ นางสาว พรพรรณ มหาปุริริมกุล อายุ 17 ปี ถูกคนร้ายรายนี้กระชากสร้อยเมื่อ วันที่ 27 ต.ค.57 เวลาประมาณ 19.30 น.ที่ผ่านมา โดยได้ก่อคดีขับขี่รถจักยานยนต์กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง ก่อนหลบหนีไป สำหรับผู้ต้องหารายนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีประวัติก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในพื้นที่ ซึ่งจะได้ให้ผู้เสียหายมาชี้ตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์ก่อนกจะส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตรมกฎหมายต่อไป