ผู้ประกอบการขอนแก่น ระบุอย่าดึงกัญชามาเป็นเรื่องการเมือง เดินหน้าล่า3หมื่นรายชื่อขอความชัดเจนจากนายกฯ – สธ.

155
ผู้ประกอบการขอนแก่น ระบุอย่าดึงกัญชามาเป็นเรื่องการเมือง เดินหน้าล่า3หมื่นรายชื่อขอความชัดเจนจากนายกฯ – สธ. พร้อมแนะไม่ต้องยกเลิกแต่ทำกฎหมายควบคุม เชื่อหากรัฐบริหารจัดการดีๆ เก็บภาษีได้มหาศาล

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 พ.ค.2567 นายเจตนิพิฐ มุสิเกตุ เจ้าของร้านจำหน่ายกัญชา ” K Cannabis Store” ซึ่งตั้งอยู่ 21/25 ถนนอำมาตย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือการแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว. มหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข (สธ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอให้กระทรวงสาธารณสุข แก้ไขประกาศกระทรวง โดยดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น ทำให้เกิดเสียงสะท้อนหลายฝั่ง โดยเฉพาะฝ่ายที่ทำธุรกิจกัญชาเชิงสันทนาการและสุขภาพ ซึ่งร้านค้าของตนเองจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชา หลายรูปแบบ มีใบอนุญาตทางการค้าถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อได้ยินว่าจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง งงและตกใจมากไม่คิดว่ารัฐบาลจะมีแนวคิดแบบนี้

 

“ที่ตนเองตัดสินใจปลูกและทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา เพราะว่ารัฐบาลสมัยนั้นส่งเสริม โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ขณะนั้นผลักดันจนสำเร็จ แต่รัฐบาลสมัยนี้กลับจะนำกัญชาไปเป็นยาเสพติดอีก ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นการของการเมืองมากกว่า โดยทางกลุ่มกัญชาเตรียมรวบรวมรายชื่อ30,000รายชื่อขอความชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุขและนายกรัฐมนตรี”

นายเจตนิพิฐ กล่าวต่ออีกว่า ยอมรับว่ากังวลกับธุรกิจกัญชาที่ลงทุนไปนับสิบล้านอย่างมาก เพราะร้านของตนเองปลูกกัญชา และแปรรูป ขายทั้งช่อดอก ผลิตภัณฑ์อื่นๆหลายรายการ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ช่วงนี้ต้องชะลอการลงทุนไว้ก่อน เพราะยังมีความไม่ชัดในเรื่องนี้ จึงอยากให้รัฐบาลประกาศความชัดเจนโดยเร็วว่าขอบเขตของกัญชาสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน และหากจะยกเลิกทั้งหมด ต้องเยียวยาผู้ประกอบการอย่างไรบ้าง เพราะมีการลงทุนเยอะ อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลออกกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ว่าสิ่งไหนทำได้ ทำไม่ได้ ถ้าหากมีการบริหารจัดการดีๆ สามารถเก็บภาษีเข้ารัฐได้มหาศาล แต่ไม่อยากให้กลับไปเป็นยาเสพติด เพราะกัญชามีประโชน์มากกว่าโทษ ที่อ้างว่าการเสพกัญชาทำให้อาละวาดคลุ้มคลั่งไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง ที่คลุ้มคลั่งน่าจะเป็นสารเสพติดชนิดอื่นมากกว่า เรื่องนี้ตนเองสามารถยืนยันได้เพราะใช้กัญชามารักษาอาการนอนหลับไม่หลับ กินยาแพทย์แผนปัจจุบันก็ไม่หาย แต่ใช้กัญาแล้วหาย ไม่อยากให้กัญชาไทยถอยหลังลงคลอง เพราะต่างประเทศก็ปลดล็อกกันหมดแล้ว แม้แต่ต่างประเทศก็ให้ความสนใจกัญชาไทยอย่างมากอีกด้วย

 

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.