นักวิชาการขอนแก่นมั่นใจ รัฐบาลปลดล็อคเบียร์คราฟ-สุราชุมชน สร้างนักธุรกิจหน้าใหม่ และ SME มากขึ้น

วอนรัฐคุมคุณภาพให้ดีเพราะเป็นเครื่องดื่มควบคุมเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ พร้อมแนะจับเทรนกระแสโนแอล แต่ต้นทุนการผลิตสูงกว่าเท่าตัว

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 พ.ค.2568 ที่ห้องปฎิบัติการเครื่องดื่มตะวันตก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น (มทร.) ดร.ภูชิสส์ ตันวาณิชกุล อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมอาหารและชีวภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น กำลังตรวจสอบขั้นตอนและกระบวนการวิธีการหมักเครื่องดื่มตะวันตก ตามแผนการจัดการเรียนการสอน ด้วยการตรวจสอบการตกตะกอนของกระบวนการหมักข้าวบาร์เลย์ และการทดสอบฟองและรสชาติของเครื่องดื่มตามห้วงเวลาของการผลิตเครื่องดื่มที่กำหนด

ดร.ภูชิสส์ กล่าวว่า การที่ ครม.มีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา หนุนสุราชุมชน ปลดล็อกเบียร์สดใส่ถัง Keg ขายนอกโรงเบียร์ได้ทั่วประเทศ หวังช่วยสร้างรายได้และส่งเสริมผู้ประกอบการสุรารายย่อย ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือการนำเสนอต่อที่ประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาข้อกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นข่าวดีที่จะส่งผลต่อการต่อยอดภูมิปัญญาไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ผลิตเบียร์คราฟและสุราชุมชน ได้เข้าสู่กระบวนการทางการตลาดที่แพร่หลาย และโชว์ถึงอัตลักษณ์ถึงการทำเครื่องดื่มประจำถิ่นที่จะมีขอนแก่นเบียร์ เช่นเดียวกับภูเก็ตเบียร์ที่มีก่อนหน้านี้ แต่รัฐ ก็ต้องควบคุมเรื่องคุณภาพให้เข้มงวด เพราะเบียร์คราฟ เบียร์สด และสุราชุมชน จะต้องควบคุมอุณหภูมิและบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ในมุมของนักวิชาการและนักวิจัยจึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานของเครื่องดื่มให้มากที่สุด

“ร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้เกิดผู้ประกอบการหน้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีมากขึ้น เพราะเบียร์คราฟ และสุราชุมชน มีฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มเฉพาะ ต้นทุนสูง และราคาจำหน่ายที่สูง ยกตัวอย่างเช่นผุ้ประกอบการหน้าใหม่ต้องการทำเบียร์คราฟ ลงทุนครั้งแรกเฉพาะถังหมักแบบ 100 ลิตร =4 ถัง อุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ก็ตกเกือบ 800,000 บาท วัตถุดิบต่างๆ ที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศอีกรวมกว่า 200,000 บาท และการตกแต่งสถานที่อีกว่า 200,000 บาท รวมเงินลงทุนก้อนแรกก็จะประมาณ 1,200,000 บาท จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องตัดสินใจและมองถึงกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนเพราะคือการลงทุนทำธุรกิจ ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ค่ายต่างๆ นั้นขณะนี้ยังน่าจะไม่มองตลาดกลุ่มนี้เพราะกลุ่มลูกค้ายังจำกัดอยู่”

ดร.ภูชิสส์ กล่าวต่ออีกว่า เงือนไขต่างๆวันนี้เราถูกคลายล็อคทั้งหมด ก็จะทำให้สุราชุมชนและเบียร์คราฟ หรือเบียร์ชุมชน ก็จะได้รับความสนใจ ความนิยมและความชื่นชอบของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวสำคัญต่างๆของไทย ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายนั้นพร้อมที่จะปฎิบัติตามกฎหมาย ทั้งเรื่องของการส่งจำหน่ายได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งในเรื่องของการห้ามตั้งใกล้แหล่งน้ำห้ามน้อยกว่า 100 เมตรประเด็นนี้ผู้ประกอบการทุกรายพร้อมที่จะปฎิบัติตาม อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตากระแสขอเบียร์สุขภาพ และกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ ที่กลุ่มคนรักสุขภาพ และกลุ่มเจนใหม่กำลังให้ความนิยม แต่ต้นทุนในการผลิตก็จะสูงขึ้นอีกเท่าตัว จึงเป็นสิ่งท้าทายให้กับผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่จะตัดสินใจลงทุนตามที่ ครม.ได้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวนี้

แสดงความคิดเห็น