สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานีคัดค้านร่างพรบ.แรงงานทะเล

415

(4 มิ.ย.68) ณ ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นางอันน์เกตุ ลีลาไพบูลย์ นายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี พร้อมผู้เข้าร่วมชุมชุมประมาณ 200 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้กับนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล โดยมี ผู้ประกอบการกิจการและลูกจ้างเรือประมงเข้าร่วมพร้อมถือป้าย มีข้อความ”ชาวประมงอ่าวปัตตานีเป็นเอกฉันท์” “คัดค้าน ร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล ไม่ชอบด้วยเหตุผลและไม่เหมาะไม่ควรกับกาลของแผ่นดินไทย” “คัดค้านประมงเข้าประกันสังคม” “จ่ายประกันสังคมไม่ไหวแล้ว ให้ต่างด้าวใช้ประกันสังคมเพื่ออะไร”
ตามที่ ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล ตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอ ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล ฯ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. 2558 เพื่อให้พระราชบัญญัติดังกล่าว มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันและเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล พ.ศ. 2549 โดยกำหนดให้การจ้างงานระหว่างเจ้าของเรือกับคนประจำเรืออยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน เพื่อให้คนประจำเรือได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย
สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานีและสมาชิกชาวประมงจังหวัดปัตตานี “มีมติเป็นเอกฉันท์คัดค้านกับการนำอาชีพแรงงานประมงทะเลเข้าระบบประกันสังคม” ที่ไม่ควรแก่เหตุและกาล ดังนี้
1.แรงงานทำงานบนเรือประมงจะมีการหมุนเวียนเข้า-ออก การเคลื่อนย้ายแรงงานเกิดขึ้นเป็นปกติทั้งปี จึงไม่สอดคล้องในการนำแรงงานอาชีพประมงเข้าระบบประกันสังคม
2.แรงงานประมง เป็นลูกจ้างประเภทงานเกษตรกรรมที่จ้างตามฤดูกาล ไม่มีกำหนดวันและรูปแบบการจ้างที่คงที่ตายตัว ด้วยเรือประมงไม่ได้ออกทำการประมงสม่ำเสมอ เช่น ช่วงหน้ามรสุม ช่วงปิดอ่าวทั้ง 2 ฝั่งทะเล ไม่ได้ออกทำประมงตลอดทั้งปี ในบางลำ ออกทำการประมงเพียง 2-3 เดือนก็หยุดจอดเรือหรืออาจ 7-9 เดือนต่อปีเท่านั้น จึงมิใช่เหตุที่จะใช้เงื่อนไขเดียวกันในการทำประกันสังคมแรงงานในภาคอุตสาหกรรมหรืองานบริการทั่วไป
3. ผู้ประกอบการเรือประมงทั้งพาณิชย์และพื้นบ้านส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 ประกอบอาชีพลักษณะบุคคลธรรมดา ไม่ใช่นิติบุคคล เป็นการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ส่งต่อและสืบทอดกันโดยธรรมชาติของครัวเรือน ไม่มีสำนักงาน ไม่มีรูปแบบการดำเนินกิจการทางธุรกิจการค้า การลงทุนที่ต้องมีสำนักงานตามการจดแจ้งเฉพาะ
4.กระทรวงแรงงาน ได้ออกประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การจัดสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพและสวัสดิการแก่แรงงานประมง ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ให้แรงงานภาคประมง ได้รับการคุ้มครองสุขภาพและสวัสดิการ ซึ่งทำการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย มีค่าประกันสุขภาพอยู่แล้ว หากมีการเรียกเก็บเงินประกันสังคมอีกก็จะซ้ำซ้อน เป็นการสร้างภาระให้ทั้งนายจ้าง ลูกจ้างและภาครัฐ เกินกว่าสถานะเศรษฐกิจของชาติ ณ ปัจจุบัน ที่เป็นอยู่ อันเป็นการสร้างภาระให้กับเงินแผ่นดิน
5.กระทรวงแรงงานมีกฎหมายบังคับให้นายจ้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งชาวประมงและแรงงานในเรือทุกคน ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวอย่างเสมอภาค โดยมุ่งเน้นสวัสดิภาพและสวัสดิการ จึงมิใช่เหตุที่จะต้องจ่ายเงินซ้ำซ้อนให้เป็นภาระแก่ชาติ อีก
นางอันน์เกตุ เปิดเผยว่า ประมงปัตตานียื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเลที่ผ่านร่างไป เนื้อหาใจความมีการพาดพิงประมงพาณิชย์ ซึ่งเห็นแล้วว่าถ้าผ่านร่างนี้เข้าไปอนาคตชาวประมงพาณิชย์จะได้รับความเดือดร้อน เกี่ยวกับเรื่องให้แรงงานต่างด้าวทุกคนทำประกันสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้
“ขณะที่คนไทยเราทุกคนยังไม่ได้รับประกันสังคมที่ถูกต้องเลย ควรดูแลคนไทยให้ดี เราชาวประมงทุกคนทำงานเพื่อประเทศให้ทุกคนอยู่ดีมีรายได้ ขอให้รัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อประโยชน์ของประเทศต่อไป ปัจจุบันอาชีพประมงเราเหลือแค่ 1ใน 3 และ 1 ใน 4 ของชาวประมงที่มีอยู่ทั้งหมด เป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ต้องรักษาอาชีพนี้ เฉพาะจังหวัดปัตตานีมีเรือประมงจากเดิมมี 2,000 ลำ ตอนนี้ออกทำการประมงจริงๆ 200 – 300 ลำ ส่งผลให้ชาวบ้านไม่มีงานทำ อาชีพที่มีอยู่ก็ทำไม่ได้ จะย้ายออกจากพื้นที่ไปที่ไหนก็ไม่ได้ ต้องดิ้นรนให้ชีวิตอยู่ได้ เราต้องการอาชีพที่ถูกต้องที่เป็นไปตามเงื่อนไขรัฐบาลทุกอย่าง ขอให้รัฐบาลหันมามองเราด้วย”


.

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.