ขอนแก่นพลิกที่นาดินเค็มเลี้ยงปูนิ่ม-ปูทะเลขาย สร้างรายได้จุนเจือครอบครัว พร้อมสร้างแบรนด์ “ขอนแก่นซีฟู้ด by ฟาร์มทะเลบ้านไผ่” เอาใจลูกค้าสายซีฟู้ดที้ไม่ต้องไปถึงทะเลก็ได้กินปูสดๆ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 25 มิ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้กลุ่มผู้เลี้ยงปลา บ้านหนองนางขวัญ ม. 9 ตำบลเมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งได้มีการเลี้ยง ปูนิ่ม,ปูดำ และปูทะเล จำหน่าย ภายในบ่อเลี้ยงที่จัดสร้างขึ้นกลางพื้นที่นาข้าวเดิมที่มีลักษณะน้ำกร่อย ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแหล่งผลิตสัตว์น้ำทะเลแห่งใหม่กลางภาคอีสาน มีปูทะเลกว่า 2,000 ตัว โดยมี ร.ต.สมพงษ์ ไชยสง อายุ 73 ปี เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ และเจ้าของที่ดิน กำลังตรวจสอบความเรียบร้อยของศูนย์ฯดังกล่าวอยู่อย่างขมักเขม้น
ร.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า พื้นที่แปลงนี้เดิมใช้ทำนา แต่ด้วยลักษณะดินเค็มและน้ำกร่อย จึงทำให้ได้ผลผลิตต่ำ จนกระทั่งปี 2544 ชาวบ้านได้เริ่มทยอยขายที่นาออก ตนเองจึงตัดสินใจซื้อสะสมจนได้พื้นที่รวม 56 ไร่ จากนั้นในปี 2545 ได้เริ่มทดลองใช้พื้นที่ 4 ไร่ทำนา และอีก 10 ไร่ทำบ่อเลี้ยงปลานิล แต่ไม่ประสบผลดีนัก จึงเลิกทำนาและหันมาเลี้ยงปลานิลเต็มรูปแบบ ส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่น สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องจนตัดสินใจลาออกจากราชการมาประกอบอาชีพเกษตรกรเต็มตัว กระทั่งในปี 2547 ขยายกิจการเพิ่มเติม โดยเลี้ยงกุ้งขาว ปลาตะเพียน และปลากระพงน้ำกร่อย ซึ่งตลาดมีความต้องการสูงและจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี
“ต่อมาได้รับคำแนะนำจาก นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น ซึ่งลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ฯ และทราบถึงลักษณะพื้นที่ดินเค็มน้ำกร่อยที่เหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์น้ำทะเล จึงเสนอแนวทางเลี้ยง ปูทะเล เพิ่มเติม พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด เป็นพี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด และส่งร้อยตรีสมพงษ์ไปศึกษาดูงานการเลี้ยงปูทะเลที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งอ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี หลังจากกลับมา เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบค่าความเค็มในบ่อ พบว่าอยู่ในระดับ 20 พีพีที (ขณะที่น้ำทะเลมีค่าความเค็มประมาณ 30 พีพีที) ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการเลี้ยงปูทะเล จึงเริ่มต้นนำพันธุ์ปูจาก จ.จันทบุรีมาเลี้ยงกว่า 2,000 ตัว”
ร.ต.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า วิธีการเลี้ยงปูทะเลของเรานั้นมีความพิถีพิถัน โดยใส่ปู 1 ตัวต่อกล่องพลาสติกแต่ละใบ วางเรียงไว้ในแพพลาสติกภายในบ่อ เพื่อให้ตัวปูได้อยู่ในน้ำตลอดเวลา อีกทั้งมีการใส่ แร่ธาตุจากทะเลลงในบ่อ เพื่อปรับสภาพน้ำให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ปูเติบโต แข็งแรง และลอกคราบเป็นปูนิ่มได้อย่างสมบูรณ์ ที่สำคัญ การดูแลต้องเป็นระบบหมุนเวียน เพราะ ทุก 4 ชม.ต้องมีเจ้าหน้าที่หรือสมาชิกกลุ่มสับเปลี่ยนกันเข้ามาตรวจสอบกล่องเลี้ยง เพื่อคัดแยกปูที่ลอกคราบเป็นปูนิ่ม เพราะหากพลาดช่วงเวลาสั้น ๆ ปูนิ่มก็จะกลายเป็นปูเปลือกแข็งทันที และต้องปล่อยเลี้ยงต่ออีกระยะ
“การสังเกตปูนิ่มทำได้ง่าย หากกล่องเลี้ยงมีปู 2 ตัวเมื่อเปิดออก แสดงว่าตัวหนึ่งเป็นคราบเก่า ส่วนอีกตัวคือตัวปูนิ่มที่เพิ่งลอกคราบ ต้องรีบนำขึ้นมาน็อกน้ำแข็งทันที ก่อนส่งขายให้ลูกค้า ซึ่งราคาจำหน่ายปัจจุบันอยู่ที่กก.ละ 400–600 บาท ทั้งนี้ ศูนย์ยังไม่เปิดจำหน่ายหน้าฟาร์ม เพราะกำลังการผลิตยังมีจำกัด ลูกค้าต้องสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าได้ตามจำนวนและคุณภาพมาตรฐาน จากที่ดินเค็ม น้ำกร่อยไร้ค่าในอดีต วันนี้ได้พลิกฟื้นให้กลายเป็นทะเลกลางทุ่ง สร้างอาชีพใหม่ที่มั่นคงให้กับคนบ้านไผ่ และวางเป้าหมายต่อยอดแบรนด์ ‘ขอนแก่นซีฟู้ด by ฟาร์มทะเลบ้านไผ่’ ให้เป็นต้นแบบการเลี้ยงสัตว์ทะเลในพื้นที่ภาคอีสานเรียกได้ว่ายกทะเลมาไว้ที่อ.บ้านไผ่ เพื่อให้คนได้กินอาหารทะเลสดๆโดยไม่ต้องไปถึงทะเล พร้อมกันนี้ทางศูนย์ฯเตรียมต่อยอดนำสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆมาเลี้ยงจำหน่ายในอนาคตอีกด้วย”
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.