โอละพ่อ ข่าวหนุ่มหายตัวถูกจับเรียกค่าไถ่อยู่ฝั่งลาว ตม.เชียงแสน ช่วยกลับ พบ เป็นค่าปรับหลบหนีเข้าเมือง สปป.ลาว

 ตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ข่าว “พิรุธ! หนุ่มหายตัวปริศนา ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่อยู่ฝั่งลาว” ญาติร้องศูนย์ดำรงธรรมเชียงราย ตม.เชียงแสน รุดช่วยทันที

โดย  พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สราวุธ คนใหญ่ ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 โดย ได้ประสานงานกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ อ.เชียงแสน  และเจ้าหน้าที่ ตม.ของ สปป.ลาว ให้ความช่วยเหลือหนุ่มไทยตามข่าว คือ นายวทัญญู สงวนนามสกุล อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา ต.โปร่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมรุ่นน้องอีกคนคือ นายธนากรสงวนนามสกุล  อายุ 16 ปี อยู่ที่ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลับประเทศไทยทางจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย

โดยทาง ตม.เชียงแสน และสหวิชาชีพ ได้ร่วมกันสอบปากคำ พบว่าบุคคลทั้ง 2 ได้เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติไปยัง สปป.ลาว เพื่อไปทำงาน โดยผ่านการติดต่อชักชวนจากคนลาวไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2568 หลังจากนั้นได้ถูก จนท.ตม.ลาว จับกุม ในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากญาติให้นำเงินไปชำระค่าปรับใน สปป.ลาว เพื่อจะได้เดินทางกลับบ้าน ญาติจึงประสานขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย และผ่านสื่อโซเชียล ตม.เชียงแสน ทราบจึงรีบเข้าช่วยเหลือทันที จากการสอบปากคำมีความเห็นร่วมกันว่า บุคคลทั้ง 2 ไม่เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์แต่อย่างใด  ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อโซเชียลจึงเป็นการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการนำเงินไปจ่ายค่าถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ฝั่งลาว แต่เป็นการนำเงินไปจ่ายค่าปรับเนื่องจากกระทำความผิดหลบหนีเข้าเมือง