“สุริยัน”มั่นใจ ปมพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา จะกลับสู่ภาวะปกติเร็วๆนี้ เพราะปล่อยไว้จะส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันฝ่าภาวะวิกฤติกำแกงภาษีสหรัฐ

369

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ก.ค.2568สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง จ.ขอนแก่น นายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่ จ.ขอนแก่นว่า ถ้าเราตามข่าวในมุมมองของคนทำงานในประเด็นข้อพิพาทและความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ขณะนี้นั้นไม่ส่งผลกระทบ ในความร่วมมือของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง หรือกลุ่มประเทศอาเซียนที่ยังคงดำเนินการอยู่การประชุมและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของกัมพูชา มาไทย หรือ ไทยไปกัมพูชา ก็ยังมีอยู่ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ที่ระดับสูงและผลกระทบที่เกิดขึ้นคือเกิดจากการปั่นกระแส ผ่านโซเชียลมีเดีย จนก่อให้เกิดการตื่นตระหนก และภาวะการณ์ในภาพรวม

“ยอมรับว่าเป็นบรรยากาศของโซเชียลมีเดียและภาวะผู้นำระดับสูงผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความเข้าใจของทั้ง 2 ประเทศ ไทยกับกัมพูชา นั้นไม่มีปัญหากัน เรายังติดต่อ ประสานงานต่างๆยังคงเดิม เพียงแต่สถานการณ์ด้านชายแดนยังคงส่งผลกระทบกันอยู่ ซึ่งทุกฝ่ายหวังว่าผู้นำมั้ง 2 ฝ่ายจะหาทางเจรจา หรือหาทางออกร่วมกันได้อย่างลงตัว เพราะไทยกับกัมพูชาเราเป็นเพื่อนบ้านกัน
เพราะหากมองย้อนหลังกลับไปหลายสิบปี ก็มีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้น แต่พอทุกอย่างยุติเราก็กลับมาทำงานร่วมกัน มาค้าขาย มาดำเนินกิจกรรมด้านสังคมและเศรษฐกิจต่างๆ”

นายสุริยัน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเราต้องร่วมมือกันและรวมตัวของกลุ่มประเทศอาเซียนในห้วงภาวะเศรษฐกิจการค้าที่อ่อนไหว โดยเฉพาะเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐ ต้องยิ่งร่วมมือกันขับเคลื่อนเพราะเราได้รับผลกระทบเรื่องภาษีดังกล่าวนี้อยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบชัดเจนคือเรื่องการลงทุน เพราะเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น และการสื่อสารในทุกช่องทางที่นำข้อมูลมานำเสนอ ซึ่งนักลงทุนนั้นอ่อนไหว แต่ด้วยข้อมูลและเหตุการณ์ต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในอดีตก็จะทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นไปข้างหน้าดังนั้นนักลงทุน ต่างยังคงจับตาและท่าทีของทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันอยู่

“ผลกระทบหลักคือการค้าชายแดน เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นเราเห็นว่าเป็นผลกระทบทางด้านการค้าในรูปแบบและนอกรูปแบบ ซึ่งขณะนี้ชัดเจนว่าผู้ประกอบการและชุมชนที่อยู่ตามแนวเขตชายแดนนั้นได้รับผลกระทบแล้ว ส่วนการส่งออกและนำเข้าสินค้า ผู้ประกอบการก็เริ่มปรับตัวกันแล้ว แต่ทุกคนก็หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นไม่นานเพราะหากปล่อยไว้นานก็จะส่งผลต่อตบาดการค้าและหลุ่มนักลงทุน จะต้องคิดในมุมมองใหม่”

นายสุริยัน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า มั่นใจว่าขณะนี้ผู้แทนรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายกำลังพูดคุยกัน เพราะระดับปฎิบัติการรู้เลยว่ายิ่งกลับมาเร็วเท่าไหร่ทุกอย่างก็จะคลี่คลายได้เร็ว ดังนั้นผู้นำและผู้ที่อยู่ในวงการการเมืองน่าจะมองประเด็นที่หลากหลายกว่าเราเพราะเรื่องข้อพิพาทชายแดนไม่ใช่เรื่องเพิ่งเกิด ซึ่งหลายท่านได้ผ่านเหตุการณ์มาแล้วจึงมั่นใจว่าเหตุการณ์ความตรึงเครียดและปมขัดแย้งต่างๆจะกลับสู่ภาะปกติเร็วๆนี้

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.