“เราใช้หลักฮุก่มปากัต หากพบเห็นการขายก็ใช้การบังคับกฎหมายเด็ดขาดควบคุม มียุทธการตรวจอาทิตย์ละ 1 ครั้งโดยความร่วมมือกับ 3 ฝ่าย ร่วมกับสภ.เมืองปัตตานี และ ฉก.ปัตตานี 92 สำหรับตรวจตราเยาวชนตามหอพัก บ้านเช่า อพาร์ทเมนท์ ซึ่งใช้มาตรการนี้มาหลายครั้งแล้ว ไม่พบเห็นการซื้อขายและการต้มหรือดื่มน้ำกระท่อม”
นายวันสุกรี แวมามะ นายอำเภอเมืองปัตตานี/ผอ.ศปก.อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี กล่าวถึงยุทธการตรวจตราการซื้อขาย การเสพใบและน้ำกระท่อมในเขตอ.เมืองปัตตานี ที่ได้ปฏิบัติการมาตั้งแต่ก่อนมีมาตรการ 120 วัน กวาดล้างกระท่อมที่ผิดกฏหมาย
ในส่วนของร้านขายยา ซึ่งมีการขายยาแก้ไอ นายวันสุกรีบอกว่า จะมีอย.และสาธารณสุขไปสุ่มตรวจอยู่เป็นประจำ และยาแก้ไอประเภทมาผสมในน้ำกระท่อมส่วนใหญ่ไม่มีขายตามร้านยาทั่วไป
“สำหรับมาตรการ 120 วัน คาดว่าสำหรับอ.เมืองปัตตานีไม่เกิน 90 วันจะทำตามมาตรการนี้ได้แน่นอน จากการลงพื้นที่ไปตรวจตอนนี้แทบไม่ปรากฏการวางร้านขายกระท่อมให้เห็น ไม่พบเจอกระท่อมใน ต.กรือเซะ ต.บานา ต.รูสะมิแล และต.รอบนอกเมืองปัตตานี เมื่อครบวาระที่ไม่พบเจอจริง ประเมินแล้วว่าไม่มีกระท่อม 100 เปอร์เซ็นต์จึงจะขึ้นป้ายไม่เอากระท่อม โดยการประชาคมในพื้นที่โดยหลักฮุก่มปากัต”
การร่วมกันขจัดปัญหายาเสพติดนี้สอดคล้องตามที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบนโยบายเพื่อให้การแก้ไขปัญหาพืชกระท่อมและยาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกหน่วยงานต้องทำความเข้าใจและนำปฏิบัติการ 120 วันไปปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัดที่ชัดเจน เน้นคุณภาพและผลลัพธ์ที่ประชาชนสัมผัสได้ รวมทั้งประกาศห้ามจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 68 เพื่อลดปัญหาการค้าและการใช้พืชกระท่อมอย่างผิดวัตถุประสงค์ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อ.จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย รวมทั้งหมด 688 ชุมชน
นายอำเภอเมืองปัตตานีฝากว่า หากพบเห็นการวางขายไม่ว่าจะริมถนน ในบ้าน หรือที่ไหน ช่องทางใดๆ ในเขตอ.เมืองปัตตานี ขอให้แจ้งมายังนายอำเภอได้ตลอด
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.