ส.ส.ปัตตานี ชี้ “ชัยชนะสมรภูมิ 120 วัน กระท่อม”: พลังชุมชนผนึกภาครัฐ ปูทางสู่อนาคตลูกหลาน

275

กลางแดดจ้าของชายแดนใต้ ภาพแผงขายใบกระท่อมริมทางสาย 42 ที่เคยคุ้นตา ได้เลือนหายไปเกือบหมดสิ้น เช่นเดียวกับบรรยากาศการซื้อขายในอำเภอยะหริ่งที่เงียบสงบลงอย่างเห็นได้ชัด นี่คือผลลัพธ์แรกเริ่มของ “วาระปฏิบัติการ 120 วัน วาระกระท่อม” นโยบายเข้มข้นจาก พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ที่กำลังพลิกโฉมภูมิทัศน์การค้ายาเสพติดในพื้นที่ ทว่าเบื้องหลังความสำเร็จที่ปรากฏ ยังมีรอยร้าวที่ซ่อนอยู่ และการต่อสู้ที่ต้องดำเนินต่อไป
“เมื่อก่อนขายกันเกลื่อนเลย เดินไปตรงไหนก็เจอ แต่ตอนนี้มันหายไปเยอะจริง ๆ” ชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่งกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สิ่งนี้ไม่ใช่แค่การปราบปรามจากภาครัฐ แต่เกิดจากการที่ “ชาวบ้านในพื้นที่” ลุกขึ้นมาต่อต้านอย่างแข็งขัน เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ร้านรวงต่าง ๆ ต้องทยอยเลิกกิจการ
นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี เขต 5 พรรคประชาชาติ ผู้คลุกคลีกับการแก้ไขปัญหานี้มาโดยตลอด ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้น”ทุกตำบลใน อ.ยะหริ่งยังเดินหน้าแก้ปัญหาการใช้พืชกระท่อมอย่างต่อเนื่อง เราเน้นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ผู้นำศาสนา ชุมชน และสาธารณสุข ผ่านกลไกสภาสันติสุขและศาสนาบำบัด เพื่อให้ปัญหานี้ลดลงหรือหมดไป” นี่คือปรัชญาการทำงานที่เชื่อมั่นในพลังของชุมชนและหลักศาสนาในการนำทาง
นายอิบรอเหม เบ็ญนา หัวหน้าสำนักงานเลขานุการ ผอ. กสม. ศอ.บต. ได้ออกมาเน้นย้ำถึงความอันตรายนี้ “ปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะน้ำกระท่อม ยาบ้า และยาไอซ์ กำลังคุกคามพื้นที่ชายแดนใต้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะการดื่มน้ำกระท่อม ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เยาวชนเข้าสู่ยาเสพติดชนิดอื่น สร้างปัญหาทั้งครอบครัวและชุมชน”
นายอิบรอเหมฯเขาเตือนว่าแม้ครอบครัวใดอาจไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยตรง แต่ผลกระทบก็อาจย้อนกลับมาถึงตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการถูกชิงทรัพย์หรือทำร้ายร่างกายจากผู้เสพที่ต้องการเงินซื้อยา “ผมขอเรียกร้องให้ชุมชนร่วมเป็นหูเป็นตา และช่วยกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยขึ้น” นายอิบรอเหมกล่าวทิ้งท้ายด้วยความห่วงใย
“วาระปฏิบัติการ 120 วัน วาระกระท่อม” ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของการรวมตัวกันระหว่างภาครัฐ ผู้นำ และประชาชนในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เปิดเผยให้เห็นถึงความซับซ้อนของปัญหายาเสพติด ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบและซ่อนตัวอยู่ในเงามืด การต่อสู้กับ “กระท่อม” และยาเสพติดอื่น ๆ ในชายแดนใต้ จึงไม่ใช่เพียงแค่การปราบปราม แต่คือการสร้างความเข้าใจ การสร้างการตระหนักและสร้างจิตสำนึก รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกัน และการผนึกกำลังของทุกคนในชุมชน เพื่อปกป้องเยาวชนและอนาคตของพื้นที่ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของภัยร้ายนี้

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.