“ดรุณเกมส์-SVC เกมส์”: มากกว่าการแข่งขันกีฬา…คือการปลูกฝัง ‘น้ำใจนักกีฬา’ และภูมิคุ้มกันยาเสพติด

แสงแดดยามเช้าทอแสงอ่อนๆ สาดส่องทั่วสนามโรงเรียนดรุณศาสน์วิทยา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและรอยยิ้มของเหล่านักเรียนที่รวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อเริ่มต้นการแข่งขันกีฬาครั้งสำคัญประจำปี “ดรุณเกมส์ ครั้งที่ 37” และ “SVC เกมส์ ครั้งที่ 5” กิจกรรมที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สนามประลองความสามารถด้านกีฬา แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันและปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีงามให้กับเยาวชนในพื้นที่

พิธีเปิดถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยได้รับเกียรติจาก พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มาเป็นประธานในพิธี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญที่ภาครัฐให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนในพื้นที่ชายแดนใต้

ขบวนพาเหรดของนักเรียนจากทั้ง 9 สี เคลื่อนขบวนอย่างสวยงาม แต่ละขบวนไม่ได้เพียงแค่แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยสาระสำคัญคือการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด สื่อต่างๆ ที่นักเรียนร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นเสมือนพลังเล็กๆ ที่ส่งเสียงดังๆ ไปสู่ทุกคน ให้ตระหนักถึงพิษภัยที่ร้ายกาจของยาเสพติด

การแข่งขันกีฬาหลากหลายประเภท ทั้งฟุตบอล, วอลเลย์บอล, เซปักตะกร้อ ไปจนถึงมินิมาราธอน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเป้าหมายหลักที่แท้จริงของการจัดงานนี้ ซึ่งเลขาธิการ ศอ.บต. ได้ย้ำเตือนในระหว่างกล่าวเปิดงานว่า: “รู้สึกภูมิใจที่โรงเรียนแห่งนี้ได้สร้างโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะด้านกีฬา ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ถึงโทษภัยของยาเสพติด…สิ่งที่สำคัญที่สุดในการแข่งขัน ไม่ใช่การแพ้หรือชนะ แต่คือการได้เข้าร่วมและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะผลที่ตามมานั้นก็คือ การได้รู้จักคำว่า ‘น้ำใจนักกีฬา'”

คำกล่าวนี้ไม่เพียงแต่เป็นคำอวยพรให้การแข่งขันดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ยังเป็นข้อคิดที่ลึกซึ้งในการสร้างคนรุ่นใหม่ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นการตอกย้ำว่า กีฬาเป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่คือเครื่องมือในการสร้างวินัย ความสามัคคี และคุณค่าทางจิตใจที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น

การแข่งขันกีฬา “ดรุณเกมส์-SVC เกมส์” จึงไม่ได้สิ้นสุดลงเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย แต่ได้ทิ้งเมล็ดพันธุ์แห่งคุณค่าและความดีงามไว้ในหัวใจของเยาวชนทุกคน ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุดในการต่อสู้กับยาเสพติดและปัญหาต่างๆ ในสังคม เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ต่อไปในอนาคต

แสดงความคิดเห็น