ยะลา- เดินหน้า สู้ภัยพืชกระท่อมต่อเนื่อง ผกก.สภ.เมือง ย้ำ มาตรการเชิงรุก ความร่วมมือของหน่วยงานและชุมชน สะท้อนผลสำเร็จเบื้องต้น จากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคู่ การรณรงค์สังคม

จังหวัดยะลา ยังคงขับเคลื่อนนโยบาย “120 วัน วาระพืชกระท่อม” อย่างเข้มแข็ง ตามแนวทางของ พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พล.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. โดยทุกหน่วยงานในพื้นที่ร่วมมือกัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของพืชกระท่อมและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ความคืบหน้างานป้องกันและปราบปราม พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เปิดเผยว่า จังหวัดยะลา ได้รับการกำหนดให้เป็น จังหวัดต้นแบบ ในการดำเนินการทั้งด้านยาเสพติดและพืชกระท่อม โดยภายใต้วาระ 120 วัน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน ตำรวจได้บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานปกครองและสาธารณสุข เพื่อควบคุมการจำหน่ายพืชกระท่อมอย่างเคร่งครัด
ผลการดำเนินงานล่าสุด ก่อนประกาศวาระ 120 วัน จับกุมได้ 16 คดี หลังประกาศวาระ จับกุมเพิ่ม 7 คดี และส่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ปปส. เปรียบเทียบปรับ มีการสุ่มตรวจร้านค้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ และร่วมกับอำเภอ-สาธารณสุขตรวจสอบทุกเดือน นอกจากนี้ ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าร่วมเสริมสร้างความเข้าใจกับประชาชน ชุมชนบุดี ต้นแบบการรณรงค์ ในพื้นที่ ตำบลบุดี อ.เมืองยะลา ซึ่งทางผู้นำชุมชนและเทศบาล ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ไม่สนับสนุนการจำหน่ายพืชกระท่อม เน้นหลักการ “ไม่มีผู้ซื้อ เท่ากับ ไม่มีผู้ขาย” ซึ่งช่วยลดการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากเดิมที่มีร้านจำหน่ายพืชกระท่อมในเขตเมืองยะลา ประมาณ 100 ร้าน ปัจจุบันเหลือเพียง 22 ร้าน หลังมาตรการเข้มงวด ส่วนใหญ่ปรับตัวปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ติดป้ายแจ้งเตือน “ไม่ขายให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หญิงมีครรภ์ และในสถานศึกษา”
พ.ต.อ.ฉัตรชัย ยังย้ำว่า แม้พืชกระท่อม หรือน้ำต้มกระท่อม ไม่ผิดกฎหมาย แต่หากขายให้กลุ่มเปราะบางหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขจะมีความผิด และอาจเป็น จุดเริ่มต้นของยาเสพติดชนิดอื่น จึงขอความร่วมมือให้ หลีกเลี่ยงการจำหน่าย หันไปประกอบอาชีพอื่นที่สร้างรายได้มั่นคง ร่วมกันดูแลเยาวชน ไม่สนับสนุนให้บุตรหลานเกี่ยวข้องกับพืชกระท่อม ชุมชนสอดส่องป้องกัน เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ ตำรวจยังคงสุ่มตรวจและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

แสดงความคิดเห็น