ตำรวจขอนแก่นเร่งแกะรอยสืบสวนหาตัวแก๊งค์เงินกู้ยกพวกรุมทำร้ายเพื่อนบ้านเหตุฉุนถูกเตือนขับรถเสียงดัง จอดขวางในซอย ขณะที่น้องสาวคนเจ็บยังผวากลัวคนก่อเหตุย้อนมาทำร้ายอีก ยันเอาเรื่องถึงที่สุด

2,041

จากกรณีแก๊งค์เงินกู้ที่มาเช่าบ้านอยู่ในซอยพรสวรรค์ 6 บ.พรสวรรค์ ม. 13 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเพือนบ้านหลังไม่พอใจที่ถูกเพื่อนบ้านเตือนเรื่องขับรถเร็วเสียงดังและ จอดรถกีดขวางในซอย จนทำให้ นายอภิชาติ คงสมศรี อายุ 32 ปี ที่เป็นคนตักเตือนได้นับบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งคนในครอบครัวด้วยก่อนที่คนที่ก่อเหตุจะย้ายบ้าาหลบหนีไปตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 28 ส.ค.2568 พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.บ้านเป็ด กล่าวว่า ตำรวจรู้ตัวกลุ่มคนลงมือก่อเหตุทั้งหมดแล้ว เป็นกลุ่มคนที่มาเช่าบ้านอยู่ใกล้บ้านคนเจ็บ พร้อมกันนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำญาติคนเจ็บแล้ว และจะต้องรอสอบสวนคนเจ็บหลังจากออกจาก รพ.ก่อน จากนั้นก็จะรวบรวมหลักฐาน ขอหมายจับจากศาล จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามจับกุมทุกคนมาดำเนินคดีตามขั้นตอน

“ในส่วนของคู่กรณีก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนด้วยเช่นกัน เพื่อให้ทางตำรวจดำเนินคดีกับทางเจ้าของบ้าน โดยให้การว่าถูกทำร้ายเช่นกัน ซึ่งในทางคดีนั้น ตำรวจก็ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากทุกคน โดยจะมีการสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกอย่างว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ หากพบว่าใครกระทำความผิดส่วนใด ก็จะมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฏหมาย”

ด้าน น.ส.เมขลา คงสมศรี อายุ 26 ปี หลานสาวและน้องสาวคนเจ็บ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุนั้นตนเองไม่ได้เห็นแต่ต้น โดยยายมาเคาะประตูเรียกบอกว่าพี่ชายตีกันกับคนข้างบ้าน จึงรีบวิ่งออกมาดู ก็เห็นคู่กรณีที่ถอดเสื้อจับพี่ชายกดลงกับกล่องลังกระดาษที่อยู่บริเวณหน้ารถที่ตนเองจอดอยู่ในบ้าน และกระหน่ำชกพี่ชายตนเอง ตนเองจึงรีบวิ่งเข้าไปดึงแขนคนที่ทำร้ายพี่ตนเองออก และขอร้องให้หยุด ชายที่ถอดเสื้อสะบัดแขนออกแล้วหันมาจ้องหน้าตนเอง พร้อมกับพูดว่าอย่ามายุ่งในมือมันมีขวดซึ่งหมายถึงในมือพี่ชายตนเองมีขวดอยู่ โดยตนเองพยายามห้ามและขอร้องให้หยุดแค่นี้ แต่ชายที่ถอดเสื้อไม่ฟังก็ชกพี่ชายตนเองต่ออีก ซักพักจึงแยกออกจากกัน ก่อนที่ชายที่ถอดเสื้อจะวิ่งออกจากบ้านไป

“พอพี่ชายตนเองลุกขึ้นได้ก็รีบวิ่งตามคู่กรณีไป โดยคู่กรณีได้มีการบอกกันให้เอารถกระบะออกมาเตรียมไว้แล้วที่หน้าบ้านเช่าของคู่กรณี โดยชายที่ถอดเสื้อได้วิ่งไปขึ้นรถกระบะของพรรคพวกตัวเองที่ถอยไปจอดรอ ส่วนพี่ชายตนเองพยายามวิ่งตามพร้อมกับปาขวดใส่ 5-6 ขวด ก่อนที่พี่ชายจะวิ่งเข้ามาเอามีดในบ้าน ซึ่งขณะนั้นตนเองเดินออกไปดูที่ตรงถนนหน้าบ้านก็เห็นรถกระบะของคู่กรณีขับถอยออกไป โดยตอนแรกคิดว่าคู่กรณีจะไปแล้วไม่ย้อนกลับมาอีก แต่ผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีคู่กรณีขับรถกระบะกลับมาจอดที่หน้าบ้าน โดยมีกลุ่มผู้ชายลงมาจากรถมายืนที่หน้าบ้านตนเองประมาณ 10 คน วิ่งตรงเข้ามาหาพี่ชายกับตนเองจึงพากันรีบเข้าไปในบ้าน ก่อนที่กลุ่มชายดังกล่าวจะเข้ามาในบ้าน ซึ่งชายที่ถอดเสื้อที่ทำร้ายพี่ชายตนเองทีแรกก็เข้ามาด้วย ก่อนที่ทุกคนจะปาข้าวของทั้งขวดเบียร์ ขวดแก้ว ก้อนหิน ก้อนอิฐ กระถางต้นไม้ ถังขยะ พูดง่ายๆว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถหยิบจับได้ที่อยู่หน้าบ้านกระหน่ำปาเข้ามาทั้งหมด”
น.ส.เมขลา กล่าวต่อว่าตนเองพยายามร้องตะโกนขอให้อีกฝ่ายหยุดปาสิ่งของเข้ามา เพราะจะทำให้โดนรถโดนบ้านได้รับความเสียหาย ทั้งยังบอกว่ามียายอยู่ในบ้านด้วย แต่กลุ่มผู้ชายเหล่านั้นก็ไม่ฟังยังปลาสิ่งของต่างๆเข้ามาไม่หยุดทำให้ยายตนเองได้รับบาดเจ็บไปด้วย โดยเหตุการณ์ขนาดนั้นทำให้ตนเองสติหลุดเพราะตกใจกลัวมาก ก่อนที่แฟนจะดึงยายเข้าบ้านและดึงตนเองเข้าบ้าน ส่วนพี่ชายอยู่ที่มุมประตูบ้าน ถูกสิ่งของต่างๆมาใส่ จนพี่ชายตนเองเกือบจะหมดสติ ขาเริ่มอ่อนแรง ใช้มือจับกระจกที่แตกเอาไว้ตนเองเห็นจึงรีบช่วยดึงตัวพี่ชายเข้ามาหลบในบ้าน ซึ่งมีกลุ่มผู้ชายที่อยู่นอกบ้านตะโกนเข้ามาว่ามันล้มแล้ว มันล้มแล้ว สวย สวย ก่อนจะพากันออกจากบ้านไปขึ้นรถ ซึ่งพอกลุ่มผู้ชายดังกล่าวออกไปตนเองจึงเปิดไฟจากโทรศัพท์เพื่อสำรวจความเสียหาย ทำให้ชายที่อยู่ในรถกระบะเห็นตะโกนกลับมาว่า ถ้ามึงเก่งจริงมึงก็ออกมาสิ ก่อนที่รถกระบะจะขับไป แล้วมีรถเก๋งขับมาจอดหน้าบ้านเร่งเครื่องยนต์เสียงดัง พร้อมทั้งพูดว่าให้มันรู้ว่าใครเป็นใคร ก่อนจะขับตามรถกระบะคันแรกออกไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่มาหลังจากที่ตนเองโทรแจ้งไปตั้งแต่พี่ชายถูกทำร้ายรอบแรก ตนเองกับแฟนจึงขึ้นรถไปพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนยายกับพี่ชายได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลทันที

“ส่วนอาการบาดเจ็บนั้นมียายและพี่ชายได้รับบาดเจ็บสองคนโดยยายข้อเท้าฉีกขาด หมอเย็บทั้งหมด 7 เข็ม ส่วนพี่ชายล่าสุดหมอได้ทำการผ่าตัดหัวเข่าเสร็จแล้ว มีแผลที่ปากได้เย็บเกือบ 10 เข็ม โดยแผลที่หัวเข่าที่ทำการผ่าตัดนั้นหมอบอกว่ามีบางอย่างแทงเข้าไปลึกเกือบถึงเส้นเอ็น และในทางคดีนั้นทราบจากทางตำรวจว่า ทางชุดสืบสวนกำลังหาเบาะแสของผู้ที่ก่อเหตุว่าเป็นใครชื่ออะไรบ้าง”

น.ส.เมขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มชายดังกล่าวตนเองไม่ทราบว่าทำงานอะไรแน่ชัด เพราะกลุ่มชายดังกล่าวพึ่งมาเช่าบ้านข้างข้างไม่ถึงเดือน แต่อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ ไม่แน่ใจว่าใช่แก๊งค์เงินกู้หรือไม่ และทุกๆเช้าจะเห็นกลุ่มผู้ชายยืนกันอยู่หน้าบ้าน 10 ถึง 20 คน และจะจอดรถทั้งรถกระบะและรถเก๋งยาวจนสุดซอย โดยเว้นช่องประตูบ้านเอาไว้ ซึ่งชาวบ้านทุกคนต่างถอยรถออกลำบากในแต่ละวัน และสาเหตุที่พี่ชายถูกทำร้ายนั้นเท่าที่สอบถามพี่ชายเมื่อเช้าบอกว่า พี่ชายไปบอกกับหนึ่งในกลุ่มชายที่มาทำร้ายว่า เวลาขับรถในหมู่บ้านอยากให้ขับเบาเบา และจอดรถอยากให้จอดให้คนอื่นเข้าออกได้ด้วย เพราะหมู่บ้านนี้มีทั้งนักเรียนและคนทำงาน อยากให้จอดรถดีๆหน่อย ให้ไปบอกกันหน่อยนะ ซึ่งคนที่คุยด้วยก็รับปากว่าจะไปคุยกับหัวหน้าให้ จนอีกฝ่ายมาตะโกนด่าว่ามึงเก่งนักหรอมึงเป็นอะไรกับกูวะ มึงเป็นอะไรกับกูมากไหม ซึ่งคาดว่าพี่ชายจะเถียงกลับไปจนกลายเป็นเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดียืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและรับผิดชอบความเสียหายทั้งรถทั้งบ้านด้วย โดยตอนนี้ตนเองและคนในบ้านกลัวมาก ว่ากลุ่มชายดังกล่าวจะย้อนกลับมาทำร้ายซ้ำอีก

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง คือ นายกอล์ฟ และ น.ส. อุ๊ ทั้งคู่อายุ 45 ปี (ขอปกปิดชื่อสกุล และปกปิดใบหน้า) ชาวบ้านในพื้นที่ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า แก๊งเงินกู้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหม่ที่มาเช่าอาศัยอยู่ในพื้นที่ โดยพึ่งมาอยู่อาศัยยังไม่ถึงเดือน แต่ระยะเวลาที่มาเช่าอยู่อาศัยนั้นทำตัวกร่าง ไม่กลัวใคร ทุกวันจะได้ยินเสียงขับรถเร็วเสียงดังผ่านไปผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถกระบะแต่งซิ่งจำนวนหลายคันวิ่งต่อกันเพื่อออกไปหาเก็บเงินและกลับเข้ามาตั้งวงดื่มสุราในช่วงค่ำ และจะมีรถเก๋งที่ใช้จะเป็นรถเก๋งรุ่นเก่า จะไม่มีรถจักรยานยนต์ ขับขี่ไปมาซึ่งชาวบ้านทุกคนจะรู้ดีว่ารถคันไหนเป็นกลุ่มแก๊งค์เงินกู้นอกระบบ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีกลุ่มคนเก็บเงินกู้นอกระบบมาเช่าพักอาศัยเป็นจำนวนมากแต่ก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ คนนิสัยดีก็มีเยอะเท่าที่ตนเองเคยเจอก็มีการพูดคุยกันเล่าให้ฟังว่าจะไม่มีการปล่อยกู้ในพื้นที่แต่จะออกไปหาปล่อยกู้ตามต่างจังหวัดใกล้เคียงโดยในพื้นที่จะเป็นเพียงที่พักอาศัยเท่านั้น กระทั่งมีกลุ่มแก๊งค์เงินกู้ล่าสุดนี้มาพักอาศัยกระจายกันเช่าทั้งรีสอร์ททั้งบ้านเช่ารถกระบะจอดเต็มซอย 20 30 คัน กีดขวางการสัญจรจนกระทั่งเป็นเรื่องกันขึ้นดังกล่าว และเรื่องดังกล่าวนั้นก็ไม่ใช่การทวงหนี้เป็นการที่ชาวบ้านไปเตือนกลุ่มเงินกู้ขอให้จอดรถดีๆไม่กีดขวางเพราะมีนักเรียนมีคนทำงานอยู่อาศัยเยอะเข้าออกลำบากไม่สามารถไปได้ ซึ่งก็อยากให้ทางตำรวจจัดการให้เด็ดขาดถ้ามาสร้างความเดือดร้อนก็ไม่อยากให้มีอยู่ในพื้นที่

 

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.