สืบสวนภ.4 ตามรวบนักธุรกิจลาว คาร้านไก่ย่างเขาสวนกวาง หลังหนีมา 9 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงคนไทยทั้งภาคใต้และภาคเหนือ ยอมรับร่วมทุนจริง แต่ไม่ได้โกง
เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 29 สค. 2568 ที่ บก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สส.ภ.4 เปิดเผยว่า ชุดสิบสวน กก.1 บก.สส.ภ.4 ได้ทำการจับกุม Mr.ANOUSIT KOULAVONG สัญชาติลาว(นายอนุสิด โคละวง) อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตาก ที่ 52/2560 ลงวันที่ 1 ส.ค.68 ฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกง และเป็นผู้ต้องหาตามปฏิทินหมายจับประกาศสืบจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2568 ลำดับที่ 139 โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ ร้านอาหาร ริมถนนมิตรภาพ ม.10 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ชุดสืบสวน กก.1 ฯนำโดย พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.สมภพ กองสมบัติ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 และพ.ต.ต.เขมวัฒน์ พฤกษติกุลสว.กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส. 1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับหลังหลบหนีการจับกุมมาแล้ว 9 ปี สืบเนื่องจากในช่วงต้นปี 2559 มีกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งเป็นประชาชนพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ถูกบริษัทวันฮาลาล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่มี นายยุสรี วันฮาลาล ประธานบริหารกับและ Mr.ANOUSIT KOULAVONG สัญชาติลาว เป็นหนึ่งในผู้บริหาร ชักชวนให้ผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุน อ้างว่าประกอบธุรกิจหลายประเภททั้ง รถไฟฟ้าน้ำมันพืชและธุรกิจพลังงานและทองคำ โดยเสนอผลตอบแทนที่สูงถึง 54% ต่อเดือน หรือ 648% ต่อปี เช่น ร่วมลงทุนราคาหุ้นละ 3,000 บาท จะได้ค่าตอบแทน 400 บาทต่อสัปดาห์ ต่อ 1 หุ้น ต่อมาประชาชนที่เป็นผู้เสียหายเกือบ 500 คนรู้ว่าถูกหลอกร่วมลงทุน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 500 ล้านบาท จึงได้นำหลักฐานการโอนเงิน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา นอกจากนี้ ยังมีประชาชนในพื้นที่จังหวัดตากกว่า 10 ราย ที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน มีมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
“ผู้เสียหาย นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองตาก ซึ่งทั้งสองพื้นที่นั้นศาลได้ออกหมายจับกุมผู้บริหารบริษัทวันฮาลาล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)และ Mr.ANOUSIT KOULAVONG สัญชาติลาว ก็เป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวด้วย มาดำเนินคดีตามกฏหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.4 โดย กก.สืบสวน 1 ได้สืบสวนติดตาม ผู้ต้องหาโดยสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ เป็นคนรวยระดับเศรษฐีของลาว ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ แล้วยังได้รับการประมูลช่องทีวีในลาว มีพรรคพวกทั้งที่ประเทศลาวและในประเทศไทย รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆอีก และระวังตัวเป็นอย่างมาก เปลี่ยนที่พักและเส้นทางการเดินทางอยู่เสมอ เดินทางเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง มีการเปลี่ยนแปลงเลขหนังสือเดินทางอยู่ตลอด ทำให้การสืบสวนติดตามเป็นไปด้วยความยากลำบาก”
ผบก.สส.ภ.4 กล่าวต่อว่าล่าสุดสืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีภรรยาเป็นคนไทยอยู่ที่ อ.บ้านดุง จังหวัดอุดรธานี (อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 113 ม.2 ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี) จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหว จนพบว่ารถยนต์เกียร์คานิวาล หมายเลขทะเบียน กย-9699 กำแพงนคร ไม่อยู่ในบ้าน แต่ก็สืบสวนสวนจนทราบว่า คนในครอบครัวได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปกรุงเทพฯ ซึ่งเชื่อได้ว่าน่าจะไปรับตัวผู้ต้องหาที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศจนกระทั่งช่วงเย็น วันที่ 28 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบรถคันดังกล่าวจับมาจากจังหวัดนครราชสีมา มุ่งหน้าเข้าพื้นที่จังหวัดขอนแก่น คาดว่าผู้ต้องหาจะนั่งอยู่ในรถ เมื่อถึงอำเภอเขาสวนกวาง รถยนต์จอดแวะกินไก่ย่างสมตำ ที่ร้านขายไก่ย่างเขาสวนกวางริมถนนมิตรภาพ แล้วชายที่นั่งมาในรถก็ลงจากรถมานั่งกินไก่ย่างด้วย เจ้าหน้าที่มีความมั่นใจจนเป็นที่ชัดเจนว่าชายที่นั่งรับประทานไก่ย่าง เป็นผู้ต้องหาตามประกาศสืบจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริงจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม
“เจ้าตัวก็ยอมรับว่า เป็นบุคคลคนเดียวกันตามหมายจับ และยินยอมให้จับกุมแต่โดยดี ในเบื้องต้นให้การเพียงว่า เคยร่วมลงทุนกับบริษัทวันฮาลาล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และถูกแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของบริษัทฯ เคยขึ้นเวทีปราศรัยในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย และปฏิเสธว่าไม่ได้หลอกลวงประชาชน ไม่ได้เอาเงินของประชาชน และก็ไม่ยอมให้การใดๆในชั้นจับกุมอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.4 จะได้นำตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองตาก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป”
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.