ดึงดูดลูกค้าแน่นทุกวัน เจ้าของร้านเผย ตั้งใจช่วยคนรายได้น้อยได้รับประทานอาหารหลากหลายในราคาไม่แพง และใครที่ไม่มีเงินมาขอกิน ทางร้านยินดีจัดให้ทานฟรี
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านครัวอาหารเจ๊ดาคนรุม ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงตลาดโต้รุ่งรื่นรมย์ ถนนรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบว่ามีการจำหน่ายอาหารหลากหลายเมนู ทั้งข้าวแกง ปิ้งย่าง และอาหารอีสาน เริ่มต้นเพียง 10 บาท สวนกระแสค่าครองชีพและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยตลอดทั้งวันมีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง
นางสุมิตรา มะตาด หรือ “เจ๊ดา” อายุ 54 ปี เจ้าของร้านฯ กล่าวว่า เห็นวิกฤตเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงคิดว่าหากขายข้าวแกงในราคา 10 บาท จะสามารถขายได้ต่อเนื่องและช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้สามารถอิ่มท้องในราคาย่อมเยาได้จริง ผลปรากฏว่าร้านไม่ได้มีลูกค้าเฉพาะผู้มีงบน้อย แต่กลับได้รับความนิยมจากทุกกลุ่ม โดยแนวทางการทำธุรกิจของตนไม่ได้มุ่งหวังกำไรสูงสุด แต่เน้นสร้างฐานลูกค้าจำนวนมาก แม้กำไรไม่ได้มากพอที่จะเก็บสะสม แต่ก็เพียงพอที่จะดำรงชีวิต มีเงินผ่อนบ้านและรถ อีกทั้งยังสามารถช่วยเหลือพนักงานซึ่งปัจจุบันมีเกือบ 40 คน ให้มีงานทำและมีรายได้เลี้ยงครอบครัว
“เปิดร้านมาราว 10 ปี เริ่มต้นจากการขายไก่ทอด ต่อมาเกิดแนวคิดจากการเห็นข้าวห่อราคา 20 บาท จึงคิดว่าหากมีเงินเพียง 20 บาทจะทำอย่างไรให้คนกินอิ่มได้ จึงเริ่มทำข้าวห่อหมูและไก่ ต่อมาพัฒนาเป็นเมนูหมูแดดเดียว ไก่แดดเดียวราคา 10 บาท ก่อนจะต่อยอดเป็นข้าวแกง 10 บาท จนปัจจุบันขยายเมนูหลากหลายให้ลูกค้าเลือกสรรได้มากขึ้น จุดยืนของร้านคือ “อยู่ได้ ลูกค้าอยู่ได้” ไม่ได้หวังร่ำรวยทันที แต่ตั้งใจช่วยผู้มีรายได้น้อยให้ลดต้นทุนค่าอาหารในแต่ละวัน แม้บางครั้งจะขาดทุน แต่ก็ยังคงยึดมั่นความตั้งใจดังกล่าว”
นางสุมิตรา กล่าวต่อว่าร้านครัวอาหารเจ๊ดามีสาขาหลัก 5 สาขา ได้แก่ ย่านกังสดาล หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น บ้านโนนตุ่น บ้านกอก บึงหนองโคตร และสาขาย่อยอีกกว่า 10 จุดกระจายทั่วเมือง เช่น ตลาดจอมพล ริมถนนเหล่านาดี และจุดต่าง ๆ โดยสาขาย่อยส่วนใหญ่จะเปิดขายตั้งแต่เช้าจนถึงเวลา 10.00 น. ทั้งนี้ แต่ละสาขามียอดขายแตกต่างกัน ซึ่งทางร้านจะบริหารจัดการโดยใช้รายได้จากสาขาที่ขายดีมาสนับสนุนสาขาที่ขายไม่มาก เพื่อให้สามารถเดินหน้าธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้อยากฝากถึงประชาชนทั้งในจังหวัดขอนแก่นและพื้นที่ใกล้เคียงว่า ร้านยืนยันคุณภาพและความสะอาดของอาหารทุกเมนูในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมทั้งพัฒนาสูตรและเพิ่มเมนูใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้ามีความหลากหลายในการเลือกสรร อีกทั้งในยามวิกฤตเศรษฐกิจ หากมีผู้ที่ขาดแคลนหรือไม่มีเงิน ทางร้านยินดีแบ่งปันและจัดอาหารให้ฟรี ถือเป็นการช่วยเหลือกันในสังคม
ขณะเดียวกัน น.ส.พรรณนภา พจนา อายุ 26 ปี พนักงานร้าน กล่าวว่า เมนูยอดนิยมของร้านคือ ซุปอีสาน ทั้งซุปหน่อไม้ ซุปมะเขือ และซุปขนุน หรือที่ชาวบ้านเรียก ซุปบักมี่ รวมถึงเมนูข้าวแกงที่มีทั้งถ้วยเล็ก 10 บาท ถ้วยใหญ่ 20 บาท ข้าวสวยเริ่มต้น 5–10 บาท ตามต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีเมนูปิ้งย่างไม้ละ 10 บาท เช่น หมูย่าง หมูปิ้งนมสด หมูโบราณ หมูแดดเดียว เนื้อแดดเดียว หมูยอ ไก่ยอ และตับทอด รวมถึงข้าวห่อที่ขายตามน้ำหนัก เริ่มต้นที่ 25–30 บาทสำหรับหมูและไก่ ส่วนเนื้อวัวเริ่มต้นที่ 40 บาท โดยลูกค้าสามารถเลือกผสมได้ตามใจอีกด้วย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.