โจรใจกล้าถือฤกษ์วันพระใหญ่ ถือพวงมาลักราบพระประธานวัดดังขอนแก่น ก่อนลงมือลักเงินในตู้บริจาคต่อหน้าชาวบ้านห่มขาวนั่งสมาธิเจริญภาวนา

1,047

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 2 ก.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่นได้เผยแพร่จากเพจ “Focus ขอนแก่น” ซึ่งได้เผยแพร่ภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในพระอุโบสถวัดป่าแสงอรุณ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังเกิดเหตุคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์เงินในตู้บริจาคของวัด โดยคนร้ายเป็นชายรูปร่าง ผอม สูงประมาณ 170-180 ซม.สวมเสื้อกันหนาวแขนยาวสีน้ำเงินขอบสีขาว กางเกงสีดำ ใส่หมวกแก๊ปสีน้ำเงิน และสวมหน้ากากอนามัยสีดำ เปิดประตูโบสถ์เข้ามา ก่อนจะตกใจที่เห็นหญิงชาวบ้านห่มขาว นั่งสมาธิอยู่บริเวณข้าวประตูด้านในโบสถ์ และมีการพูดคุยกันเล็กน้อย แล้วมุ่งตรงไปที่หน้าพระประธานนั่งลงกล่าวในใจก่อนจะก้มลงกราบพระแล้วเดินส่องไฟจากโทรศัพท์มือถือไปยังตู้บริจาคที่ตั้งเรียงกันอยู่บริเวณด้านข้าง ซึ่งมีจังหวะที่หญิงชาวบ้านห่มขาวพูดคุยกับโจรรายดังกล่าว สอบถามว่าส่องไฟกำลังหาอะไร โดยโจรบอกกับหญิงที่นั่งสมาธิว่า หาตู้บริจาคมูลนิธิ โดยชาวบ้านบอกว่าทำบุญตู้ไหนก็ทำได้เหมือนกัน โดยโจรรายดังกล่าวทำทีถอยออกมาแล้วรอจังหวะที่ชาวบ้านนั่งสมาธิหลับตาอีกครั้งก่อนจะเข้าไปที่ตู้บริจาคแล้วลงมือก่อเหตุอีกรอบจนสำเร็จแล้วเดินหลบหนีออกจากโบสถ์ไป พร้อมกับเงินจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเงินที่ชาวบ้านนำมาบริจาคใส่ซองขาวเอาไว้

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุภายในโบสถ์ของวัดป่าแสงอรุณ โดยนางนิศศา พรมบุตร อายุ 68 ปี ชาวบ้านโนนสวรรค์ ม. 6 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูจุดเกิดตามที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด

นางนิศศา กล่าวว่า ขณะคนร้ายลงมือก่อเหตุมีชาวบ้านมานั่งสมาธิภายในโบสถ์เนื่องจากเป็นวันพระ ซึ่งชาวบ้านคนนี้ทราบชื่อว่าแม่พิไลจะมานั่งสมาธิประจำทุกวันพระ โดยที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ลำพังบริเวณหน้าทางเข้าโบสถ์ คนร้ายได้เปิดประตูโบสถ์เข้ามาแล้วมองเห็นแม่พิไล จนอุทานว่า ตกใจ แม่มานั่งทำอะไรมืดๆทำไมไม่เปิดไฟ ก่อนที่คนร้ายจะเดินไปก่อเหตุซึ่งขณะนั้นแม่พิไลไม่ได้คิดว่าเป็นโจรคิดว่าเป็นชาวบ้านมาไหว้พระทำบุญทั่วไปตามปกติเพราะเป็นช่วงกลางวัน ก็หลับตานั่งสมาธิต่อ

“พอลืมตาขึ้นมาอีกที เห็นชายดังกล่าวกำลังส่องไฟอยู่บริเวณตู้บริจาคแม่พิไลจึงถามว่าส่องไฟทำไม ซึ่งโจรอ้างว่ากำลังหาตู้รับบริจาคที่เป็นตู้ของมูลนิธิ โดยแม่พิไลบอกว่าทำบุญตู้ไหนก็ได้เหมือนกันไม่ต้องเลือก ก่อนที่จะเริ่มเอะใจจนชายดังกล่าวก่อเหตุเสร็จออกจากโบสถ์ไป จึงตามออกไปดูโดยมีชาวบ้านที่เป็นผู้ชายอยู่ด้านล่างโบสถ์เห็นตะโกนถามชายกล่าวว่า มาทำอะไร เอาอะไรไปอยู่ในมือ ก่อนที่ชายดังกล่าวจะรีบวิ่งไปหน้าวัดและขับรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หลบหนีไปทันที ก่อนที่แม่พิไลจึงแจ้งทางวัดให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดดูก็พบชายดังกล่าวซึ่งทางวัดจำได้ว่าเคยเข้ามาก่อเหตุรับเงินตู้บริจาคแล้วรอบหนึ่งเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนปีเดียวกันนี้ โดยพฤติการณ์เดียวกันและสวมเสื้อผ้าตัวเดิมเปลี่ยนเพียงแค่หมวก ทางวัดจึงได้แจ้งทางผู้ใหญ่บ้านให้ทราบทันทีเพื่อเตรียมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”

ด้านพระเอกวิทย์ อธิปัญโญ พระลูกวัด วัดป่าแสงอรุณ กล่าวว่า วันเกิดเหตุนั้นเป็นวันพระ มีผู้มาปฎิบัติธรรมอยู่ภายในโบสถ์มาแจ้งทางวัดว่าพบชายท่าทางน่าสงสัยมีพิรุธอยากให้ช่วยเปิดดูกล้องวงจรปิด ซึ่งก็พบว่าชายดังกล่าวเข้ามาก่อเหตุลักเงินในตู้บริจาคของวัด และเป็นโจรรายเดิมที่เคยมาก่อเหตุในลักษณะเดียวกันเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งก่อนและครั้งนี้ใช้พฤติการณ์เดียวกันเข้ามาไหว้พระขอขมาก่อนลงมือขโมยเงินในตู้บริจาคที่อยู่ด้านข้าง โดยใช้วิธีเอาไม้เขี่ยเงินขึ้นมาแล้วเอาใส่ใต้หมวก ก่อนจะเอาหมวกมาสวมแล้วหลบหนีออกจากวัดไป ซึ่งเชื่อว่าก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง

“วัดมาทราบเหตุเนื่องจากมีผู้มาปฎิบัติธรรมในโบสถ์เป็นคนแจ้งจึงได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยทางวัดจะปิดประตูโบสถ์ในช่วงเย็นของทุกวันแต่ช่วงกลางวันจะไม่ได้มีการล็อคแต่จะปิดประตูปิดหน้าต่างโบสถ์เพื่อกันนกเข้ามาขับถ่ายด้านในโบสถ์เท่านั้น จึงเป็นช่องว่างให้โจรรายดังกล่าวลงมือก่อเหตุ ซึ่งครั้งก่อนก็ได้มีการแจ้งตำรวจมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานไว้แล้วและครั้งนี้ก็ได้แจ้งทางผู้ใหญ่บ้านให้เป็นผู้ดำเนินการต่อในส่วนของทางกฎหมายด้วย”

พระเอกวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า วิธีการของโจรรายนี้จะใช้ไม้เสียบลูกชิ้นเขี่ยเอาปัจจัยศรัทธาญาติโยมออกมาจากช่องบริจาค และยังพบว่ามีการนำกาวดักแมลงวันมาป้ายที่รูไว้เพื่อให้เวลาญาติโยมบริจาคเงินเงินจะติดอยู่ที่ขอบช่องหย่อนเงิน ซึ่งวิธีดังกล่าวเป็นวิธีฉลาดที่ผิด คาดว่าคนร้ายรายนี้จะเป็นคนมาจากพื้นที่อื่นเพราะจากการตรวจสอบร่วมกับทางผู้ใหญ่บ้านไม่คล้ายว่าเป็นคนในพื้นที่ การก่อเหตุลักขโมยแต่มีการกราบไหว้พระประธานขอขมาก็ไม่สามารถลบล้างความผิดได้ เพราะถือว่าได้กระทำผิดศีล 5 ไปแล้ว ก็อยากจะฝากถึงโจรให้กลับตัวกลับใจเพราะเรื่องที่ทำทั้งผิดกฏหมายและผิดศีลธรรมเป็นบาปใหญ่หลวง กรรมคือการกระทำพอได้โจรกรรมแล้วก็จะเป็นกรรมติดตัว มากราบเหมือนดูดีแต่ทำในสิ่งที่ไม่ได้ก็ไม่สามารถลบล้างกันได้

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.