ศอ.บต. ไม่ทอดทิ้ง! จัด “เมนูอาชีพ” สร้างชีวิตใหม่ให้ 50 ครอบครัว ประเดิมมอบพันธุ์ทุเรียน หวังสร้างภูมิคุ้มกันครอบครัว-กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
อีกมิติของงานพัฒนาที่ ศอ.บต. เดินหน้าขับเคลื่อน คือการสร้างอาชีพและภูมิคุ้มกันให้แก่กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ล่าสุดหนุนโมเดล “ส่งเสริมอาชีพขายพันธุ์ทุเรียน” หวังสร้างรายได้เสริม ยกระดับคุณภาพชีวิต ควบคู่ให้ความรู้กระบวนการยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน ปูทางสู่การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนที่ยั่งยืน
ตามนโยบายของ พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดได้มอบหมายให้ นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง (กสม.) ศอ.บต. และทีมงาน เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ
นายธีรวิทย์ ได้เป็นประธานในกิจกรรม “การส่งมอบอุปกรณ์การประกอบอาชีพและสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุขตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเตรียมความพร้อมเพื่อการเปลี่ยนผ่านกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างอาชีพและรายได้เสริมให้กับกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
สำหรับโมเดลอาชีพที่ถูกนำมาใช้ในครั้งนี้คือ “การส่งเสริมอาชีพขายพันธุ์ทุเรียน” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในมิติทางสังคมและกฎหมาย ผ่านการบรรยายในหัวข้อ “กระบวนการยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน”
กิจกรรมดังกล่าวได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมให้ความรู้ ประกอบด้วย ผศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ดือเร๊ะ ประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และผู้แทนจากสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยะลา ซึ่งมาให้ความรู้ทั้งในด้านวิชาการและแนวทางการประกอบอาชีพที่ปฏิบัติได้จริง
นายธีรวิทย์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่มุ่งสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยไม่ได้มองเพียงมิติของการสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังให้เกิดการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง และพัฒนาไปสู่การจัดตั้ง “วิสาหกิจชุมชน” ในอนาคต เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี และดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุขต่อไป ซึ่งจะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในครอบครัวและชุมชนให้มีความมั่นคงอย่างแท้จริง
“ธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์” ผอ.กองส่งเสริมฯ ศอ.บต. ย้ำชัด ภาครัฐมีหน้าที่ดูแลทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะผู้ที่ผ่านกระบวนการยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน ต้องไม่ถูกทอดทิ้ง เดินหน้าส่งเสริมคุณภาพชีวิต จัด “เมนูอาชีพ” ให้เลือกตามความถนัด ทั้ง “เพาะพันธุ์ทุเรียน-เลี้ยงชันโรง-ค้าขนมปี๊บ” ประเดิมมอบพันธุ์ทุเรียน 100 ต้น ให้ 50 ครอบครัว หวังสร้างอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวและลูกหลานให้มีอนาคตที่ดี
นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง (กสม.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ที่ผ่านกระบวนการยุติธรรมในพื้นที่ว่า หน่วยงานภาครัฐมีหน้าที่ต้องดูแลประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ซึ่งวันนี้กลุ่มเป้าหมายสำคัญก็คือผู้ที่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเข้าไปดูแล ห่วงใย โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพชีวิตและการส่งเสริมอาชีพ
“หลังจากที่เขาได้ผ่านกระบวนการยุติธรรม ทางเราเองก็ไม่ทอดทิ้ง โดยเฉพาะวันนี้ก็ส่งเสริมในเรื่องของอาชีพ มอบอาชีพการค้าขายทุเรียน ซึ่งได้มอบพันธุ์ทุเรียนพร้อมกับอุปกรณ์และวัสดุที่เกี่ยวข้อง ให้ 50 ครอบครัว ครอบครัวละ 100 ต้นเป็นอย่างน้อย เพื่อให้เขาไปส่งเสริมในเรื่องของการค้าการขายหรือไปเพาะปลูก” นายธีรวิทย์ กล่าว
นายธีรวิทย์ ระบุอีกว่า นอกเหนือจากการส่งเสริมอาชีพปลูกทุเรียนแล้ว ทาง ศอ.บต. ยังมีอาชีพทางเลือกอื่น ๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการและประสบการณ์ที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล โดยได้จัดทำในลักษณะของ “เมนูอาชีพ” ให้กลุ่มเป้าหมายได้เลือกในสิ่งที่ตนเองถนัดและมีประสบการณ์อยู่แล้ว
“นอกจากการเรื่องของทุเรียน ก็ยังมีส่งเสริมอาชีพประเภทอื่นอีก คือในเรื่องของผึ้งชันโรง และในเรื่องของขนมปี๊บ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ก็จะมีความต้องการและมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป ในเรื่องของการส่งเสริมอาชีพ ก็ได้จัดทำในเรื่องของเมนู ให้กลุ่มได้มีความต้องการในอาชีพที่ตนถนัดและมีประสบการณ์”
ผู้อำนวยการ กสม. ย้ำว่า แม้การกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมาย แต่สิ่งที่คาดหวังอย่างแท้จริงคือการสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับประชาชนกลุ่มนี้ “สิ่งที่เราคาดหวังจริงๆ คืออยากให้พ่อแม่พี่น้องที่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ได้มีอาชีพ ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เราอาจจะไม่สามารถพูดได้ว่าจะส่งเสริมให้เขามีความร่ำรวยอะไร คงไม่ใช่ แต่อย่างน้อยที่สุด เค้าได้มีอาชีพที่จะไปเลี้ยงครอบครัว เครือญาติ และลูกๆ ของเค้าให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต”
“เป็นอาชีพที่เค้ามีประสบการณ์ มีความถนัด และมีความพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งหลายคนที่มาร่วมโครงการก็จะเห็นได้ว่ามีประสบการณ์ในเรื่องของการเพาะปลูก และมีพื้นที่ที่มีความพร้อมที่จะทำในเรื่องของอาชีพทุเรียนอยู่แล้ว” นายธีรวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย
จากการฟังเสียงจากผู้ร่วมโครงการฯยืนยันว่า นี้ไม่ใช่แค่มอบต้นทุเรียน แต่คือการ ‘สร้างความไว้ใจ-ต่อยอดชีวิต’ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยอย่างเปิดใจกับนายสะอุดี กามารี ผู้ผ่านกระบวนการยุติธรรม เผยโครงการส่งเสริมอาชีพของ ศอ.บต. ช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างรัฐกับประชาชนให้แน่นแฟ้นขึ้น ชี้การมอบพันธุ์ทุเรียนพร้อมองค์ความรู้ครบวงจร เป็นการมอบ “ทุน” สร้างอนาคต ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนและนำไปสู่ความมั่นคงที่ยั่งยืน
นายสะอุดี กามารี หนึ่งในผู้ที่ผ่านกระบวนการยุติธรรมและเข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้สะท้อนมุมมองและความหวังที่มีต่อโครงการนี้ว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนคือความไว้วางใจระหว่างภาครัฐกับประชาชนจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
“จากกรณีที่ ศอ.บต. เล็งเห็นถึงความต้องการและส่งเสริมคุณภาพชีวิต ผมเชื่อว่าการต่อยอดตรงนี้ มันจะทำให้เขาสามารถไปแต่งเติมได้ เพราะว่าพืชเศรษฐกิจตัวนี้จะทำให้ในอนาคตเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในชุมชน และมีการสร้างเครือข่าย” นายสะอุดี กล่าว
นายสะอุดี ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนที่ไม่ใช่เพียงการมอบปัจจัยการผลิต แต่ยังรวมถึงการให้ความรู้อย่างครบวงจร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
“นอกจากนี้ เขาจะมีความรู้องค์ความรู้ ที่ทาง ศอ.บต. ได้จัดให้มีการสอน มีการเกษตรของจังหวัดมาให้องค์ความรู้ ซึ่งชาวบ้านที่มีพื้นฐานอยู่แล้วก็จะได้องค์ความรู้ตัวนี้ไปต่อยอดและส่งเสริม เขาทั้งระบบแบบครบวงจร ทำให้เกิดคุณค่าภายในตัว”
“แล้วก็ต้นทุเรียนที่เป็นทุนที่ ศอ.บต. มอบให้ จะทำให้เศรษฐกิจภายในครัวเรือนและชุมชนเกิดความมั่นคง” นายสะอุดี กล่าวทิ้งท้ายถึงความเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างชีวิตใหม่ที่มั่นคงต่อไป
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.