เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำ กก สายรวก โขง ยื่นหนังสือ MRC ร้องเรียนแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดน

3,654

เวลา 08.00 น. วันที่ 26 พ.ย.68 ที่โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงราย เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกก สาย รวก โขง และเครือข่ายประชาชนไทยเพื่อแม่น้ำโขง นำโดย นางสาวเพียรพร ดีเทศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ ได้เข้าพบกับคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือ MRC ที่ได้มีการจัดประชุมในวาระครบรอบ 30 ปี ข้อตกลงแม่น้ำโขง 1995 Mekong Agreement โดยได้พูดถึงปัญหาผลกระทบจากสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำ กก สาย รวก โขง เนื่องจากการทำเหมืองแร่ในประเทศเมียนมา

จากนั้นได้มีการยื่นหนังสือถึงคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ผ่าน ดร.รัชดา ธนาดิเรก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการนำเสนอถึงปัญหาให้เกิดการแก้ไขโดยเร็ว

โดยเนื้อหาในหนังสือใจความว่า “ในวาระที่ท่านได้มาประชุมที่แม่น้ำกก และในวาระครบรอบ 30 ปี ข้อตกลงแม่น้ำโขง 1995 Mekong Agreement ประชาชนในลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง ใคร่ขอเรียนถึงประเด็นเร่งด่วนที่สุด คือ ปัญหามลพิษข้ามพรมแดน จากการทำเหมืองแร่นอกกฎหมายที่ต้นน้ำในรัฐฉาน เมียนมา ซึ่งส่งผลให้มีการปนเปื้อนในแม่น้ำ สารโลหะหนักเกินค่ามาตรฐานของไทยและ WHO ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย ลงไปจนถึงแม่น้ำโขง ที่พรมแดนไทยลาว จ.เชียงราย ตรงข้ามแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และ ไปจนถึงแม่น้ำโขงพรมแดนไทยลาว ที่ จ.เลย ตรงข้ามแขวงเวียงจันทน์ จังหวัดบึงกาฬ ตรงข้ามแขวงบอลิคำไซ และจ.นครพนม ตรงข้ามแขวงคำม่วน ในข้อมูลในขณะนี้ปรากฎว่าเหมืองแร่แรร์เอิร์ท แร่ทองคำ แมงกานีส และอื่นๆ เกิดขึ้นนับร้อยแห่งบนภูเขาที่ต้นน้ำ และในลำน้ำสาขาต่างๆ ซึ่งไม่มีมาตรการจัดการสิ่งแวดล้อม ทำให้สารพิษ โลหะหนัก มลพิษทั้งหมดไหลลงสู่แม่น้ำโขง

ร่างแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของ MRC ที่กำลังเข้าสู่การพิจาณาของคณะมนตรีในวันนี้ ยังไม่พบว่ามีการพิจารณาข้อเท็จจริงใหม่ ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่สุด คือปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจากหมืองแร่ที่ไม่มีการควบคุมในลุ่มน้ำโขงตอนบน

เครือข่ายประชาชนฯ ใคร่เรียนว่า คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ควรยกระดับและให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ที่ 2 ว่าด้วย Enhancing Data, Monitoring, and Predictive Capabilities for Decision Support และ Advancing Coordinated และยุทธศาสตร์ที่ 3 ว่าด้วย River Basin Management Operations เพื่อร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนมลพิษ ที่เกิดขึ้นในลุ่มน้ำโขง ผลกระทบดังกำลังกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในการใช้น้ำ การประมง เศรษฐกิจ ความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพของประชาชน public health ของประชาชนหลายสิบล้านคนในภูมิภาค

พวกเราเห็นว่า คณะมนตรีแม่น้ำโขงควรยกประเด็นนี้ให้เป็น วาระเร่งด่วนฉุกเฉินด้านของรัฐบาลภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และขอเรียนข้อที่ควรดำเนินการเร่งด่วนดังนี้

รัฐบาลทั้ง 4 ประเทศ รวมถึง เมียนมา และจีน และประเทศที่เกี่ยวข้องกับ Global Supply Chain ต้องยกวาระเรื่องมลพิษข้ามพรมแดนจากการทำเหมืองแร่ เป็นเรื่องเร่งด่วน และต้องเสนอให้มีการเจรจา ให้มีการทำเหมืองแร่ที่รับผิดชอบ ลดผลกระทบ และยุติแหล่งมลพิษ

เสนอให้มีแผนเร่งด่วนใน MRC Strategic Plan 2026-2030 เฉพาะด้านว่าด้วยเรื่อง การติดตามเฝ้าระวังและเตือนภัยกรณีมลพิษข้ามพรมแดนแม่น้ำโขงและลำนำ้สาขา

ดำเนินการตรวจคุณภาพน้ำ ตลอดลุ่มน้ำโขงเพื่อให้ประชาชนทราบความเสี่ยงของการปนเปื้อนสารโลหะหนักและแจ้งเตือนให้ประชาชนทั้ง 4 ประเทศได้ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านสุขภาพ

พวกเราหวังว่า คณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง จะตระหนักถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์มลพิษข้ามพรมแดนในปัจจุบัน รวมถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาดปลอดภัย เพื่อลูกหลานของแม่น้ำโขงในอนาคตดังที่ว่า “Meeting the Needs, Keeping the Balance” และ “Empowering the Next Generation”

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.