วุ่นหนักฟ้องกันไปมาคดีทำร้ายนักเรียนศิษย์เก่า-โรงเรียนดังชร.

วันที่ 5 พ.ค. นางพิกุล เหง่าตระกูล ผอ.โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมครูในโรงเรียนจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปพบ ร.ต.อ.ศุภชัย กันทะสิงห์ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ปากคำกรณีทางโรงเรียนได้เคยเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายภัทรกฤต ดวงสนิท อายุ 29 ปี ข้อหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลไปทางสื่อมวลชนแขนงหนึ่งว่าเกิดเหตุการณ์ทำร้ายนักเรียนภายในโรงเรียนเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมาแล้ว โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลว่าได้มีนักเรียนที่เคยเรียนอยู่ในโรงเรียนดังกล่าวระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 อย่างน้อย 3 คน ถูกอาจารย์ชายที่เป็นฝ่ายปกครองคนหนึ่งทำร้างร่างกายและด่าว่าด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีผู้ไปหารือกับผู้อำนวยการโรงเรียนแต่เด็กที่ถูกกระทำก็ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอื่นไปแล้ว

โดยนางพิกุล กล่าวว่าเรื่องที่มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ในโรงเรียนดังกล่าวไม่มีมูลความจริงในหลายเรื่อง โดยกรณีที่มีการระบุว่าได้มีการเข้าไปหารือกับตนเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวนั้นพบว่าไม่มีใครเขาไปพบตนแต่อย่างใด กระนั้นเมื่อมีการเผยแพร่ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวทางโรงเรียนจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาคลี่คลายข้อเท็จจริง โดยมีกรรมการจากเขตการศึกษา นักวิชาการที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการจะมีการประชุมกันในวันนี้ โดยจะมีการนัดพยานที่เคยอยู่กับเด็กที่ถูกระบุว่าถูกทำร้ายมาให้ปากคำด้วยซึ่งหากว่าเป็นความจริงก็จะมีการดำเนินการทางวินัยกับครูที่ถูกกล่าวหา แต่หากไม่เป็นความจริงสังคมก็จะได้รับรู้และไม่ทำให้โรงเรียนเสียหายอีก

รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมานายภัทรกิฤตได้นำกลุ่มนักเรียนอายุระหว่าง 17-19 ปี ซึ่งศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ของโรงเรียน จำนวน 4-5 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.สันติ ศิริสำราญ สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับครูคนหนึ่งในโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม ในข้อหาทำร้ายร่างกายและทำร้ายจิตใจเด็กนักเรียน โดยให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนว่ามีการใช้วาจาด่าทอและทำร้ายร่างกาย โดยหนึ่งในนักเรียนที่ไปร่วมแจ้งความระบุว่าถูกตบศีรษะและพูดด่าทอด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ

นายภัทรกิฤต กล่าวว่าตนในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนแห่งนี้ทนเห็นเหตุการณ์ในโรงเรียนเก่าไม่ได้ และหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะทำให้ใเกิดความเสียหายมากขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้มีการเอาผิดทางวินัยและทางกฎหมายเพื่อไม่ให้มีการกระทำกับนักเรียนคนอื่นอีก รวมทั้งยังได้แจ้งเรื่องไปยังกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้รับทราบแล้วด้วย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าสำหรับการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกันไปมาระหว่างผู้บริหารโรงเรียนเชียงรายวิทยาคมกับนายภัทรกิฤตดังกล่าวนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ให้มีการลงบันทึกประจำวันคำแจ้งไว้เป็นหลักฐานทั้ง 2 คดี รวมทั้งอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ เนื่องจากเหตุการณ์ที่มีการแจ้งความแต่ละเหตุเกิดขึ้นต่างสถานที่และต่างเวลากัน.