วันที่ 16 มิ.ย.60 เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พมจ.)เชียงรายและเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.) นำตัวนักศึกษาจากวิทยาลัยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย จำนวน 8 คน ที่ไปฝึกงานที่ประเทสเกาหลีใต้ และ ได้ขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัคราชฑูตประเทศไทยประจำเกาหลีใต้ให้ส่งตัวกลับประเทศและเข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่าถูกทางเจ้าของฟาร์มในประเทศเกาหลีใช้แรงงานหนักและลวนลามเด็กฝึกงานผู้หญิงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.เดช ไชยวุฒิ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อกล่าวหาเอาผิดกับองค์กรนิติบุคคล โอลไลฟ์ ประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นองค์กรซึ่งนำพาเด็กทั้ง 8 คน ไปฝึกงาน ภายหลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 5 ฝ่ายทำหารือและสอบสวนรายละเอียดจากเด็กทั้ง 8 คน โดยมีข้อมูลการสอบสวนบางส่วนพบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์(ฉบับที่3 ) พ.ศ.2560 ในมาตรา 6 โดยเฉพาะในเรื่องของประเด็นการทำอนาจารลวนลามเด็กนักศึกษาและสัญญาว่าจะให้เงินค่าตอบแทนรายละ 20,000 บาท หลังจากฝึกงานเสร็จ โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการสอบสวนและบักทึกถ้อยคำตลอดจนประวัติของผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อดำเนินการขั้นตอนของกฎหมายต่อไปแล้ว
ซึ่งหลังเกิดเรื่องขึ้นทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้มีคำสั้่งโยกย้ายนายเจริญ เชื้อเมืองพาน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย ไปรักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดตาก โดยมีคำสั่งลงวันที่ 15 มิถุนายน 2560 และให้ย้ายภายใน 15 วัน จนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ซึ่งนายเจริญ กล่าวว่าการโยกย้ายตำแหน่งของตนขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บริหาร ซึ่งอาจเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่จึงมีการโยกย้ายไว้ก่อน ซึ่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนนั้นก็ขึ้นอยู่กับทางกระทรวงอีกครั้ง สำหรับคำสั่งโยกย้ายครั้งนี้ เป็นคำสั่งที่ถือว่าไม่รุนแรงเพราะให้โยกย้ายใน 15 วันซึ่งหากร้ายแรงจะต้องย้ายภายใน 24 ชม. และที่มาวันนี้ก็เพราะอยากมาทราบถึงข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือเด็ก
“การจัดส่งเด้กไปฝึกงานตนเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะเด็กจะได้ประสบการณ์จากการทำงานนอกเหนือจากการเรียนปกติ และอาจได้ทุนการศึกษาเพื่อศึกษาต่อหลังจากฝึกงานเสร็จ เพราะ 2 รุ่นแรกก็เคยประสบความสำเร็จมาแล้วไม่มีปัญหา ไม่คิดว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นกับเด็กรุ่นนี้ เพราะที่ผ่านมาก็เคยประสานกับทางมูลนิธิฯ และทางฟาร์มสถานที่ฝึกงานตลอด อีกทั้งเคยมีเจ้าหน้าที่ไปดูงานในสถานที่จริงเป็นสถานที่การผลิตด้านการเกษตรที่ทันสมัยที่จะพัฒนาเด็กที่ไปฝึกงานให้มีฝีมือได้ ซึ่งตนจะชี้แจงให้กับทางผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาเข้าใจ ซึ่งได้นัดหมายให้มาประชุมเพื่อชี้แจงเรื่องนี้ก่อนที่จะย้ายไปปฎิบัติหน้าที่ยังพื้นที่อื่น” ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย
ด้าน นายลิขิต มีเสรี ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.เชียงรายกล่าวว่าหลังจากนักศึกษาได้เข้าร้องทุกข์ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลแล้ว จากนั้นได้แจ้งเรื่องไปยัง พม.จ.เชียงราย และต้นสังกัดของเด็กนักศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และครั้งนี้ทาง พม.จ.เชียงราย จะรับหน้าที่ในการคุ้มครองและรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังอาจารย์อาจารย์ทองอยู่ ซึ่งเป็นชาวเกาหลี ที่มาอยู่ประเทศไทยจนสามารถพูดไทยได้ชัดเจนและเป็นผู้ประสานงานของนิติบุคคล โอลไลฟ์ ประเทศเกาหลี ที่ลงนามข้อตกลงในการส่งนักศึกษาไปฝึกงานเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ได้รับการปฎิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยระบุว่าจะขอพูดเรื่องนี้หลังจากเรื่องนี้จบลงแล้วเท่านั้น
นอกจากนี้ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์ติดต่อมายังนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อขอทราบข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้นและแจ้งว่านายกรัฐมนตรีให้ความสนใจในเรื่องนี้และกำลังติดตามความคืบหน้า
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.