วันที่ 1-3 เม.ย.62 ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย กระทรวงพาณิชย์จัดให้มีการประชุมร่วมภาครัฐละเอกชน 17 จังหวัดภาคเหนือ กับ 6 แขวงภาคเหนือของ สปป.ลาว ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการค้าชายแดน การค้าผ่านแดนและโลจิสติกส์ โดยมี น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในพิธีเปิด ส่วนทาง สปป.ลาว มีผู้บริหารระดับหัวหน้าแผนกอุตสาหกรรมและการค้ สภาการค้าและอุตสหกรรมแขวง จากแขวงบ่อแก้ว แขวงหลวงน้ำทา แขวงอุดมไช แขวงไชยะบุรี แขวงหลวงพระบาง และแขวงพงสาลี เข้าร่วม และฝ่ายไทยทางนายภาษเดช หงส์ลาดรมภ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นางวนิดา ทิพย์ศักดิ์ พาณิชย์ จ.เชียงราย ได้นำหน่วยงานเกี่ยวกับการค้าชายแดน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม บิสคลับ เข้าร่วม
โดยกิจกรรมในวันแรกมีการจัดบรรยายพิเศษเรื่องการค้าชายแดนยุคใหม่โดยนายทรงเดช ตันสุรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ จากนั้นระหว่างวันที่ 2-3 เม.ย. จะมีการประชุมร่วมทุกฝ่ายเพื่อรับทราบข้อมูลทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน รวมทั้งเรียบเรียงประเด็นปัญหาทางการค้าระหว่างไทย-สปป.ลาว ที่เกิดขึ้นในแต่ละจังหวัดของไทยและทั้ง 6 แขวงของ สปป.ลาว โดยจะประชุมติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันจนกว่าจะได้ข้อสรุปสำหรับหาทางออกร่วมกันต่อไป
น.ส.สุทัศนีย์ กล่าวว่าครั้งนี้ถือเป็นการจัดประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนระหว่างภาคเหนือของไทยและภาคเหนือของ สปป.ลาว ที่มีความสัมพันธ์ทางการค้าร่วมกันมานานเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเชื่อมความส้มพันธ์และสร้างความเข้าใจต่อกัน โดยเฉพาะในปีนี้ประเทศไทยได้โอกาสเป็นประธานกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือกลุ่มอาเซียนด้วยจึงใช้โอกาสนี้ในการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับการประชุมไทย-สปป.ลาว ครั้งนี้ก็จะเป็นการหารือเพื่อลดปัญหาและอุปสรรคทางการค้าชายแดนของทั้ง 2 ฝ่าย เช่น ข้อกฎหมาย การขนส่งหรือโลจิสติกส์ ฯลฯ ทั้งในแง่ของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของทั้ง 2 ประเทศ
น.ส.สุทัศนีย์ กล่าวอีกว่าสำหรับปัญหาหลักๆ ที่เข้าใจกันว่าเป็นอุปสรรคผ่านมาคือเรื่องของโลจิสติกส์ ระบบการทำงาน เอกสาร ฯลฯ กระนั้นการหารือตลอด 2 วันนี้จะทำให้เราสามารถรวบรวมและเรียบเรียงกันได้อย่างครบถ้วน โดยหากพบว่าเรื่องใดสามารถแก้ไขกันได้ในระหว่างการประชุมก็สามารถดำเนินการได้เลย แต่หากเป็นระดับเจ้าหน้าที่ที่อยู่สูงขึ้นไปหรือในระดับนโยบายก็จะได้จัดทำเป็นข้อเสนอเพื่อให้มีการแก้ไขต่อไป ทั้งนี้ผลดีที่ได้คือจะทำให้การค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ในภาคเหนือมีปัญหาและอุปสรรคน้อยลง เมื่อมีการค้าระหว่างกันมากขึ้นก็จะทำให้เศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศดีขึ้นตามมา และหลังการประชุมครั้งนี้ก็จะมีการต่อยอดไปสู่การจัดงานแสดงสินค้าร่วมกันเพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาจากการประชุมครั้งและดูการตลาดไปพร้อมๆ กันด้วยต่อไป
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.