ศอ.บต. ลงพื้นที่ ต.บาโงย อ.รามัน จ.ยะลา ให้กำลังใจ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา และชาวบ้านร่วมใจ ที่ออกมาต่อต้านยาเสพติด-พืชกระท่อม ตามนโยบาย “ปฏิบัติการ 120 วัน“

248

วันนี้ 24 กรกฎาคม 2568 พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบให้ นายธีรวิทย์ เธียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยทีมงาน ลงพื้นที่ หมูู่ที่ 3 บ้านปาโล๊ะ ต.บาโงย อ.รามัน จ.ยะลา พบปะและให้กำลังใจแก่ นายฮาซัน มะเกะมีนา ผู้ใหญ่บ้าน และทีมงาน ที่ได้นำผู้นำท้องถิ่น อิอิศาสนา ผู้นำสตรี เจ้าหน้าที่ อส.(ชคต.บาโงย) พี่น้องประชาชน และกลุ่มเยาวชน ในพื้นที่รับผิดชอบ ออกมารวมพลังออกมาต่อต้านพืชกระท่อม – ยาเสพติด พร้อมทั้งขอร่วมแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.ยะลา ตามนโยบาย “ปฏิบัติการ 120 วัน“(1 มิถุนายน – 30 กันยายน 2568) เพื่อลดปัญหาการค้าและการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด รวมถึงยาเสพติดโดยรวม และเพื่อรวมพลังให้ผู้นำศาสนา พี่น้องประชาชน และเยาวชน มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาให้มากยิ่งขึ้น

ทาง นายธีรวิทย์ เธียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  ได้เน้นย้ำไปยังผู้ใหญ่บ้าน และทีมงาน ที่รับผิดชอบในพื้นที่ ในเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่จำเป็นต้องรอเพียงแค่ข้อกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญ คือ การร่วมมือกันทุกส่วน ในการปกป้องครอบครัวและเยาวชน ให้ห่างไกลจากสิ่งมึนเมาทุกชนิด โดยเฉพาะพืชกระท่อม ซึ่งเป็นวาระที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างแท้จริง ขณะนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าผลักดันให้พืชกระท่อมกลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดอีกครั้ง สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความร่วมมือของภาคประชาชนคือหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหา ภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนและดูแลอย่างต่อเนื่อง

นายฮาซัน มะเกะมีนา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านปาโล๊ะ กล่าวว่า สำหรับในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับเยาวชนในพื้นที่ นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับเยาวชนถึงบ้าน เพื่อทำความเข้าใจถึงสถานการณ์และให้กำลังใจ นอกจากนี้ ยังมีโครงการสร้างงานสร้างรายได้ โดยเฉพาะการเก็บขยะรีไซเคิล ซึ่งช่วยให้เยาวชนมีงานทำ มีรายได้ และมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้พวกเขามีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นและห่างไกลจากยาเสพติด-พืชกระท่อม โดยเฉพาะจากพืชกระท่อม ซึ่งมักทำให้เยาวชนนอนดึกและไม่มีงานทำ การมีงานและรายได้ช่วยลดการพึ่งพายาเสพติดได้เป็นอย่างดี สำหรับบางอำเภอ ยังมีสนามกีฬาระดับมาตรฐาน ซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการออกกำลังกายและเล่นกีฬา ทำให้ร่างกายแข็งแรงและจิตใจสดใส

ทางด้าน นายอับดุลกาฟี โต๊ะกาลี คอเต็บประจำมัสยิดดารุสสากีรีนบ้านปาโล๊ะ กล่าวว่า หลังจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ประกาศ “ปฏิบัติการ 120 วัน” เพื่อลดปัญหาการค้าและการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด รวมถึงยาเสพติดโดยรวม และเพื่อรวมพลังให้ผู้นำศาสนา ประชาชน และเยาวชน มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยมีการร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครอง ผู้นำศาสนา และชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้ในพื้นที่ของตน ไม่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดอยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่ สอดส่อง ดูแล และเข้าไปพูดคุยกับผู้ที่เคยมีพฤติกรรมเสี่ยง พร้อมทั้งเชิญชวนเข้าสู่กระบวนการบำบัดอย่างสมัครใจ โดยอาศัยบทบาทของผู้นำจิตวิญญาณและศาสนาในการให้คำแนะนำด้วยความเข้าใจ
“ถ้าใครมีพฤติกรรมที่เสี่ยง ผู้นำศาสนาก็จะเข้าไปหาถึงที่ ถึงบ้าน ไปพูดคุยอธิบายว่าอะไรผิด อะไรถูก แล้วก็แนะนำให้ไปบำบัด ซึ่งหลายคนก็ยินดีและยอมรับในสิ่งที่ทำ

นอกจากนี้ ยังได้มีการนำหลักคำสอนทางศาสนาอิสลามเกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติดและการใช้พืชกระท่อมผิดประเภท ไปเผยแพร่ผ่านการอ่านคุตบะห์ (ธรรมเทศนา) ในวันศุกร์ เพื่อให้คนในชุมชนรับรู้และตระหนักว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นสิ่งที่ผิดหลักศาสนาอิสลามและกฎหมาย

คอเต็บประจำมัสยิดดารุสสากีรีนบ้านปาโละ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ในชุมชน หมู่บ้าน เคยมีผู้หลงผิด ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดประมาณ 30% ของประชากรในหมู่บ้านแต่ด้วยมาตรการที่เข้มแข็งของทั้งฝ่ายปกครอง และผู้นำศาสนา ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงหลังประกาศ “ปฏิบัติการ 120 วัน” ที่มีผู้ใหญ่บ้าน และทีมงาน ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ อส. และชาวบ้าน ได้ร่วมกันตัดโค่นต้นพืชกระท่อมที่เคยปลูกไว้อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้กลับมาใช้ในทางที่ผิดอีก อัลฮัมดุลิลละห์ ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นมาก พวกเราช่วยกันดูแล พูดคุย เตือนสติ และแนะนำแนวทางที่ถูกต้องตามหลักศาสนาให้กับเด็กๆ และคนในชุมชน ผู้นำชุมชนกล่าวทิ้งท้าย

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.