ศอ.บต.- รองผู้ว่าฯ ร่วมผลักดัน “ศูนย์พักคอยผู้ผ่านการบำบัด” ก้าวสำคัญเพื่อคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน

254

ที่ ห้องประชุมพญาตานี ศาลากลางจังหวัดปัตตานี ในเช้าที่ผ่านมา นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้นำการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดปัตตานี (ศอ.ปส.จ.ปน.) เพื่อเดินหน้าภารกิจสำคัญในการต่อสู้กับภัยยาเสพติดอย่างครบวงจร แต่การประชุมครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการปราบปราม แต่เป็นการมองไปข้างหน้าเพื่อ “สร้างคน” และ “ให้โอกาส” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ผ่านการบำบัด หรือที่เรียกว่า “ศูนย์พักคอยผู้ผ่านการบำบัด”
การประชุมมีผู้แทนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งภาครัฐและเอกชน สะท้อนถึงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อเป้าหมายเดียวกัน โดยมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับสรุปผลการดำเนินงานตามแผนงานต่างๆ ที่ผ่านมา ตั้งแต่การจัดทำหมู่บ้านสีขาว การจัดระเบียบสังคมในชุมชน ไปจนถึงการป้องกันในสถานศึกษา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของจังหวัดในการเข้าถึงปัญหาจากทุกมิติ
การนำนโยบาย “120 วัน พลิกฟื้นชีวิตผู้ใช้กระท่อม” ของรัฐบาลและ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มาสู่การปฏิบัติจริงในพื้นที่
นายไชยพรกล่าวว่า ศูนย์พักคอยฯ ของจังหวัดปัตตานีจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการคือ การฟื้นฟูสุขภาพกายและใจ อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับทัศนคติและป้องกันการกลับไปใช้ยาซ้ำ, การช่วยเหลือด้านอาชีพ ด้วยการจัดหาอาชีพสุจริตและฝึกทักษะที่จำเป็น เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนกลับคืนสู่สังคม และ การสร้างกลไกการดูแลที่ยั่งยืน เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในระยะยาว
นายไชยพรกล่าวเน้นย้ำว่า โครงการนี้ไม่ใช่เพียงแค่การบำบัด แต่เป็นการสร้างโอกาสครั้งใหม่ให้กับผู้หลงผิดให้สามารถกลับมายืนหยัดในสังคมได้อย่างภาคภูมิ เพื่อลดปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขให้กับชุมชนอย่างแท้จริง
นอกเหนือจากการฝึกอาชีพแล้ว การสร้างโอกาสให้ผู้ผ่านการบำบัดสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพนั้น ยังสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การสร้างเครือข่ายสังคมที่เข้มแข็ง: การเชื่อมโยงผู้ผ่านการบำบัดกับกลุ่มสนับสนุน (Support Group) หรือเครือข่ายอาสาสมัครในชุมชน จะช่วยให้พวกเขามีพื้นที่ปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรู้สึกว่าไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง
การส่งเสริมด้านการศึกษา: การมอบโอกาสทางการศึกษาที่ยืดหยุ่น เช่น การศึกษาทางไกลหรือหลักสูตรนอกระบบ จะช่วยให้พวกเขามีทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการพัฒนาตนเองและสร้างอนาคตที่ดีขึ้น
การสร้างความเข้าใจในชุมชน: การจัดกิจกรรมเชิงรณรงค์หรือเวิร์กช็อปให้กับชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับผู้ผ่านการบำบัด และลดอคติทางสังคม (Stigma) จะช่วยให้การยอมรับและสนับสนุนจากคนในชุมชนเกิดขึ้นอย่างแท้จริง

การให้คำปรึกษาด้านจิตใจอย่างต่อเนื่อง: การมีนักจิตวิทยาหรือผู้ให้คำปรึกษาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย จะช่วยให้ผู้ผ่านการบำบัดสามารถรับมือกับปัญหาทางอารมณ์หรือจิตใจที่อาจเกิดขึ้นหลังการบำบัดได้อย่างทันท่วงที
การบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อเป้าหมายร่วมกันนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดปัตตานีในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการให้โอกาสผู้หลงผิดให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสันติสุขที่แท้จริงให้กับพื้นที่ต่อไป
ทางด้าน ศอ.บต. เผย โครงการ “ศูนย์พักคอยผู้ผ่านการบำบัด” ของจังหวัดปัตตานี ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยเปลี่ยนมุมมองจากการปราบปรามเป็นการฟื้นฟูและให้โอกาสแก่ผู้หลงผิดให้กลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ ไม่ได้มุ่งแค่การบำบัดทางกายภาพ แต่ยังครอบคลุมถึงการฟื้นฟูในมิติต่างๆ ช่วยให้ผู้ผ่านการบำบัดสามารถปรับทัศนคติและสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ เพื่อป้องกันการกลับไปใช้ยาซ้ำ มีการฝึกทักษะและจัดหาอาชีพที่สุจริต เพื่อเป็น “ทุน” ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ จัดระบบการดูแลและติดตามผลในระยะยาว เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ผ่านการบำบัดสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพต่อไป
นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เน้นย้ำว่า ศูนย์พักคอยแห่งนี้จะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล “120 วัน พลิกฟื้นชีวิตผู้ใช้กระท่อม” ซึ่งมุ่งเน้นการฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดจากพืชกระท่อมให้กลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติภายใน 120 วัน การที่ ศอ.บต. เข้ามาสนับสนุนโครงการนี้ ทำให้เกิดความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยให้ความสำคัญกับการให้โอกาสครั้งที่สองแก่ผู้หลงผิดอย่างแท้จริง

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.