ผบช.ภ.5 รับตำแหน่งใหม่ลงพื้นที่ติดตามคดียาจับกุมยาบ้า 5 ล้านเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 6 คนเครือข่ายลาหู่ พร้อมตรวจชายแดน

86

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ลงพื้นที่ชายแดน ติดตามคดียาบ้า 5 ล้านเม็ด พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 6 คน ซึ่งเป็นเครือข่ายยาบ้ากลุ่มลาหู่ หลังจากติดตามจับกุมและขยายผลจากการจับกุมเมื่อกลางปี 63 เป็นต้นมา ด้าน ปปส.เผย ยึดทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติดเป็นเหรียญคริปโตแล้ว 2 ราย พร้อมขยายผลหากทรัพย์สินได้มาโดยผิดกฎหมาย

เวลา 10.30 น.วันที่ 6 ต.ค.64 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ชินวิช วิชันธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง และหน่วยงานทีเกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติด จำนวน 5 ล้านเม็ด และผู้ต้องหาจำนวน 6 คน ที่ สภ.เชียงแสน

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 4 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผกก.สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด ผกก.สส.ภ.จ.เชียงราย ได้สืบทราบว่ามีขบวนการขนยาบ้าจากชายแดนพื้นที่ติดต่อ อ.แม่ฟ้าหลวง จะใช้เส้นทางผ่าน อ.เชียงแสน ไปส่งมอบในเขต อ.เวียงเชียงรุ้ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.มนตรี ภูมิสะอาด รอง ผกก.ป.สภ.เชียงแสน พ.ต.ท.รัชพล สะสม สวป.สภ.เชียงแสน พ.ต.ท.กิตติภูมิ กันจินะ สว.สส. สนธิกำลังร่วมกับชุดสืบสวนของภูธรจังหวัดเชียงราย และพ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร ผกก.12 บก.รน. เฝ้าติดตาม

จนกระทั่งทราบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดจะใช้เส้นทาง จากชายแดน ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง ผ่าน อ.เชียงแสน จึงได้ตั้งจุดสกัดบนถนนแม่จัน – เชียงแสน บริเวณหน้าโรงพยาบาลศรีบุรินทร์ ก่อนถึงวงเวียนช้างงู ต.เวียง พบรถยนต์กระบะอีซูซุ แคปสีดำ ทะเบียน ผค 9673 เชียงราย และรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู สีครีม ทะเบียน กพ 4760 เชียงราย ขับตามกันมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่ได้ให้สัญญาณหยุด ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจมีผู้นั่งในรถทั้งสองคันเป็นชาย 3 คน พบพิรุธ พูดโทรศัพท์เป็นภาษาลาหู่ตลอดเวลา จึงได้ขอตรวจค้นโดยภายในรถ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้บแจ้งว่าพบรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะโตโยต้าแคปสีน้ำเงิน ทะเบียน ผก 9636 เชียงราย พร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน กษ 2498 เชียงราย ซึ่งขับตามกันมา แล้วย้อนกลับที่ทางแยกไฟแดงปากทางบ้านดอยจัน มุ่งหน้ากลับไปทาง อ.แม่จัน ทางเจ้าหน้าที่ขับตามประกบ จนถึงบ้านดอยจำปีคนขับได้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ติดตามมาจึงได้ขับรถพุ่งขึ้นเกาะกลางถนนเพื่อยูเทิร์นกลับเข้าเชียงแสน แต่ท้องรถติดกับเกาะกลางถนน คนขับและคนที่นั่งมาในรถอีกหนึ่งคนได้เปิดประตูรถแล้ววิ่งหลบหนีลงไปหลบในทุ่งนาข้างทางห่างจากถนนประมาณ 400 เมตร แต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับตัวทั้ง 2 คนได้ ส่วนรถจักรยานยนต์เจ้าหน้าที่จับตัวคนขับขี่พร้อมรถได้ที่จุดเดียวกัน

โดยเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 6 คน พร้อมของกลางเป็น รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน มาตรวจสอบที่บ้านพักตำรวจห้วยเกี๋ยง ต.เวียง โดยพบว่าที่ท้ายรถโตโยต้าแคป สีน้ำเงิน ทะเบียน ผก 9636 เชียงราย ท้ายกระบะติดโครงเหล็ก มีผ้าคลุมพอเปิดออกก็พบถุงปุ๋ยจำนวน 32 ถุง เป็นยาบ้า 5 ล้านเม็ด สอบถามชายทั้ง 6 คนให้การรับว่าเป็นชาวลาหู่ อยู่บ้านปางมะหัน ต.เทอดไท อ.แม่ฟ้าหลวง ได้รับว่าถูกจ้างให้นำยาบ้าล็อตนี้ไปส่งที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง โดยได้ค่าจ้าง 50,000 บาท

พล.ต.ท.ปิยะ เปิดเผยว่า ขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้สกัดจับกุมเครือข่ายนี้ได้เมื่อเดือน พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา และได้ติดตามขยายผลมาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่ากลุ่มนี้จะนำยาบ้าจากชายแดนไทย-เมียนมา ในเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ไปส่งให้ผู้รับในพื้นที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง จะไม่ใช้เส้นทางหลักเพื่อหลีกเลี่ยงจุดตรวจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอดโดยการสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจนกระทั่งสามารถจับกุมได้ในที่สุด

ด้าน นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 กล่าวว่า ในคดีนี้ทาง ปปส.จะได้ติดตามขยายผลเพื่อยึดทรัพย์สินที่ของผู้ต้องหา ทั้งบ้าน ที่ดิน รถยนต์ สิ่งของมีค่า รวมไปถึงเงินดิจิตอล หรือ เหรียญคริปโต โดยก่อนหน้านี้ได้มีการขยายผล และยึดทรัพย์เป็นเหรียญคริปโยมาแล้ว 2 ราย ซึ่งพบว่าปัจจุบันกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดได้นำเงินเข้าไปซื้อเหรียญคริปโต ไว้เป็นทรัพย์สิน ซึ่งหากการได้มาโดยผิดกฎหมายทางเจ้าหน้าที่ ปปส.จะดำเนินการติดตามและยึดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรของกลุ่งขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป

หลังจากที่ได้ทำการแถลงข่าวแล้ว ทาง พล.ต.ท.ปิยะ ได้มิบสิ่งของเป็นถุงยังชีพ ให้กับกำลังพบในพื้นที่ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนจะเดินทางไปที่ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน และชายแดนด้าน อ.แม่สาย เพื่อตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน และเน้นย้ำในการป้องกันการลำเลียงยาเสพติด และการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

แสดงความคิดเห็น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.