เวลา 14.00น.วันที่ 19 พ.ค.57 ที่สำนักงานศุลกากร บริเวณด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 2 นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผอ.สำนักงานศุลกากรภาคที่3 พ.อ.ยงยุทธ เหล่าเขตร์การ ผบ.ฉก.ม.3 กกล.ผาเมือง และ ตม.เชียงราย(แม่สาย)ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัว MR.LONE HLA AUNG ผู้ต้องหาชาวพม่า พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 9,499เม็ด และตรวจยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า ไฮลักซ์วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2D7435 เมียนมาร์ มี MR.AH KYONE ชาวพม่า เป็นคนขับหลังตรรวจพบว่าเป็นรถที่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อนำออกนอกประเทศ
สำหรับการจับกุมยาบ้านั้น เมื่อวันที่ 18 พ.ค.57 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้โดยสารรถยนต์จากฝั่งพม่า เข้ามาบริเวณช่องตรวจยานพาหนะขาเข้า อาคารคล่อมทางหลวง สะพานพรมแดนที่ 1 โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้น และพบยาบ้า ซุกซ่อนในกระเป๋าสัมภาระ สีดำแดง จำนวน 9,499 เม็ด โดยในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของ MR.SAI NYAR ที่หลบหนีไปขณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจาก คนขับรถโดยสาร บอกว่า ได้รับ ผู้ต้องหาและชายที่หลบหนี มาจากโรงแรม 223 พร้อมกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง สำหรับการตรวจสอบเม็ดยาบ้าเบื้องต้น พบว่า เม็ดยามีลักษณะเล็กกว่าเม็ดยาบ้าทั่วไปประมาณ 1 ม.ม. ซึ่งเมื่อปี2544มีการตรวจยึดเม็ดยาดังกล่าวได้ที่ จ. นครปฐม นอกจากนี้อักษรที่ประทับบนตัวยาก็ไม่ชัดเจน คาดว่าน่าจะเป็นชนกลุ่มน้อย อีกกลุ่มที่มีการผลิตตามแนวชายแดน และใช้เครื่องปั้มขนาดเล็ก ซึ่งเคลื่อนย้ายได้ง่าย จึงแตกต่างจากยาบ้าที่ผลิตมาจากโรงงาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวจะนำตัวอย่างเม็ดยาบ้า ทำการตรวจสอบต่อไป
อีกคดี เป็นการตรวจยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า ไฮลักซ์วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2D7435 เมียนมาร์ มี MR.AH KYONE ชาวพม่า เป็นคนขับ โดยการตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่17 พ.ค.57 ที่ผ่านมา โดย ผู้ต้องหาที่ขับรถคันดังกล่าวได้พยายามลักลอบขับออกนอกราชอาณาจักร โดยมีการติดป้ายทะเบียนปลอม และทำบาร์โค๊ท ที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรไทยทำให้เพื่อให้รถที่ผ่านพรมแดนไทย – พม่า ที่ด่านพรมแดนแม่สายเป็นประจำ สามารถผ่านเข้าออก ได้อย่างสะดวกและไม่ต้องนำเอกสารมาแสดงทุกครั้งที่ผ่าน ซึ่งเป็นการลดขั้นตอนในการตรวจสอบ แต่ก็เป็นช่องว่างที่ทำให้ขบวนการค้ารถข้ามชาตินำมาใช้เพื่อหวังจะตบตาเจ้าหน้าที่ แต่เนื่องจากบาร์โค๊ทดังกล่าวเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ตรงกันกับแผ่นป้ายทะเบียนที่นำมาติด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบว่ารถคันดังกล่าวได้ติดแผ่นบาร์โค๊ทปลอม และป้ายทะเบียนปลอม จึงได้ทำการตรวจยึดและจับกุมคนขับรถดังกล่าวเพื่อดำเนินคดีและขยายผลติดตามผู้ร่วมกระทำความผิด
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.