เวลา 09.00 น.วันที่ 26 ส.ค.57 ที่สภ.แม่จัน จ.เชียงราย พ.อ.วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง ผบ.ทพ.31 พ.อ.ทรงยศ ทองก้อน รอง ผบ. ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง พ.ต.อ.ไพรัช คุ้มล้วนล้อม ผกก.สภ.แม่จัน นายอำนาจ อริยจินดา ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบและปราบปรามสรรพสามิตภาค 5 พร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกัน แถลงข่าวการ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 48,000 เม็ด สุรากลั่นบรรจุถังจำนวน 97 ถังๆ ละ 20 ลิตร สุรากลั่นบรรจุขวดขนาด 0.6 ลิตร จำนวน 68 ขวด รวมสุรากลั่นทั้งหมด 1,986.8 ลิตร สุราแช่จำนวน 141 ถังๆ ละ 20 ลิตร รวมทั้งหมด 2,820 ลิตร
ซึ่งการจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.3108 ได้ตั้งด่านตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ที่บริเวณ ถนนภายในหมู่บ้านเล่าฟู่ ม.20 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย จนกระทั่งเวลา 11.30 น.วันที่ 25 ส.ค.57 ได้มีวัยรุ่นชาย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน – ขาว หมายเลขทะเบียน คพล 585 เชียงราย มุ่งหน้ามาตามถนนสายดังกล่าว แต่เมื่อเห็นด่านตรวจก็ได้วกรถกลับแล้วขับหลบหนีโดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจนกระทั่งพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ที่ข้างทาง จากการตรวจสอบพบกระเป๋าสะพานแขวนอนู่ที่รถคันดังกล่าว เมื่อเปิดออกก็พบว่าภายในมียาบ้าบรรจุอยู่ จำนวน 48,000 เม็ดจึงได้ตรวจยึดยาบ้าและรถจักรยานยนต์เอาไว้ เพื่อขยายผลติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับการจับกุมการลักลอบผลิตสุรา ทางเจ้าหน้าที่สรรพสานมิตรภาค 5 ได้ร่วมกับ ทหารพราน ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง ทหาร ฉก.ม.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ได้ทำการเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 17 บ้านป่าไร่ ม.9 ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย และบ้านเลขที่ 337/1 บ้านแม่หะ ม.3 ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย หลังจากที่ได้สืบทราบว่ามีการลักลอบผลิตสุรา จึงได้ออกหาข่าวจนกระทั่งทราบว่าเป้าหมายทั้ง 2 แห่งมีการผลิดสุรากลุ่มเพื่อส่งให้กับพื้นที่ใกล้เคียง โดยจากการเข้าตรวจสอบสามารถตรวจยึด สุรากลั่นบรรจุถังจำนวน 97 ถังๆ ละ 20 ลิตร สุรากลั่นบรรจุขวดขนาด 0.6 ลิตร จำนวน 68 ขวด รวมสุรากลั่นทั้งหมด 1,986.8 ลิตร สุราแช่จำนวน 141 ถังๆ ละ 20 ลิตร รวมทั้งหมด 2,820 ลิตร
นายอำนาจ อริยจินดา กล่าวว่า การตรวจยึดสุราในครั้งนี้เป็นการมาตราการที่ป้องกันการลักลอบผลิตซึ่งไม่เสียภาษีทำให้รัฐเสียรายได้กว่า 1 แสนบาทต่อเดือน และกว่า 1 ล้านบาทต่อปี ซึ่งการปราบปรามการลักลอบผลติสุราในครั้งนี้เพื่อเป็นการปราบปรามและลดความเสี่ยงในการติดสุราของเด็กและเยาวชน เนื่องจากสุราที่ตรวจยึดได้มีราคาถูกและหาซื้อง่าย ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้มีเพียง 2 รายเท่านั้นแต่ในจังหวัดเชียงรายยังพบว่ามีการลักลอบผลิตสุราอยู่อีกจำนวนมาก ซึ่งจะได้ทำการติดตามจับกุมต่อไป
ด้าน พ.อ.วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง ผบ.ทพ.31 กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดในจังหวัดเชียงรายในช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่ทางการเมียนมาได้จัดกำลังเข้าทำลายแหล่งผลิตและจุดพักยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย จะเห็นได้ว่าขบวนการค้ายาเสพติดได้มีการลำเลียงยาเสพติดมาพักไว้ที่ชายแดนในประเทศไทย เพื่อหลบหนีการกวาดล้างของเจ้าหน้าที่เมียนมา โดยการนำมาพักไว้ตามหมู่บ้านของชาวเขาในพื้นที่ นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าการบรรจุยาบ้าได้เปลี่ยนแปลงไปโดยใช้กรรมวิธีที่ทันสมัยขึ้น โดยการบรรจุในถุงชาศูนย์ยากาศ เพื่อป้องกันการละเหยของกลิ่น และง่ายต่อการนับจำนวน
ซึ่งปัจจุบันการลำเลียงยาเสพติดของขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านได้มีการนำเข้ามาพักไว้ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย ซึ่งพบว่าในจังหวัดเชียงรายมีปริมาณลดลง แต่ละไปเพิ่มบริเวณจุดที่รอยต่อระหว่าง จ.เชียงราย และเชียงใหม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ก็ได้ทำการเข้มงวดในการตรวจตราและลาดตระเวณในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยขบวนการค้ายาเสพติดในปัจจุบัน พบว่ามีการพัฒนาขึ้นว่าเดิมโดยมีระบบหลักประกันของผู้ที่รับจ้างขนยาเสพติด โดยให้ข้อเสนอในแต่ละครั้งจะได้ค่าจ้างประมาณเม็ดละ 20 บาท หรือจ้างเหมา โดยหากถูกจับกุม หรือวิสามัญ ก็จะมีคนมาเลี้ยงดูครอบครัวให้ แต่หากทำสำเร็จก็จะได้เงินค่าจ้าง ซึ่งก็พบว่ามีชาวเขาตามแนวชายแดนหันมารับจ้างขนยาเสพติดเพิ่มขึ้น
“ซึ่งร้อยละ 80 ของชาวเขาที่รับจ้างขนยาเสพติดพบว่าเป็ชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งมีบัตรประจำตัวประชาชนทำให้สามารถเดินทางเข้าไปยังชั้นในของประเทศได้ และสามารถพูดภาษาไทยได้ชัดเจน ทำให้ยากแก่การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ต้องอาศัยการข่าวที่ดีในการติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป” ผบ.ทพ.31 กล่าว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.