เวลา 12.30 น. วันที่ ร.ต.ท.ศรีเดช สุวรรณ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงรายได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 111/31 ม.20 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ หน่วยกู้ภัย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านไม้สองชั้น ที่ระเบียงบ้านชั้นบน พบนายบรรณสิทธิ์ หรือหนุ่ย ทิพย์นพคุณ อาย 31 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณมือและแขนข้างซ้าย นอนบาดเจ็บร้องครวญครางอยู่ มือข้างขวาถืออาวุธปืนขนาด .38 มม.เอาไว้แน่น โดยเจ้าหน้าที่ต้องตรึงกำลังไว้โดยรอบเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย
ใกล้กันพบ นายบุญส่ง เอื้องคำ อายุ 76 ปี และนางสุดา เอื้องคำ อายุ 74 ปี เจ้าของบ้านนั่งอยู่บนโซฟา โดยเสื้อของนายบุญส่ง มีคราบเลือดเปลื้อนเสื้ออยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงได้เข้าไปยึดอาวุธปืนที่มือของนายหนุ่ยไว้ และช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
จากการสอบสวนนางสุดา ได้ให้การว่า นายหนุ่ย เป็นหลายชายของตนกับนายบุญส่ง โดยนายหนุ่ยได้มาอาศัยอยู่ด้วยกันมานาน กว่า 6 ปี ปกตินายหนุ่ยจะมาอาศัยอยู่ชั้นล่าง แต่ในช่วงเกิดเหตุนายหนุ่ยได้ขึ้นไปบนบ้านเพื่อมากินข้าว ซึ่งระหว่างนั้นนายหนุ่ยก็ได้ข่มขู่นายบุญส่ง และตนเพื่อจะเอาเงิน เพื่อไปซื้อยาเสพติดมาเสพ โดยมักจะข่มขู่เป็นประจำ ก่อนหน้านี้ได้พาไปบำบัดหลายครั้งแต่ไม่สามารถเลิกได้ ครั้งนี้ก็ได้มาข่มขู่อีกเพื่อจะนำเงินไปซื้อยามาเสพ แต่ตนกับนายบุญส่งจึงไม่ยอมให้ ทำให้หนุ่ยไม่พอใจ จึงพยายามจะเข้ามาทำร้ายตนโดยตบที่หน้า 2 ครั้ง
ก่อนที่จะไปทำร้ายนายบุญส่งผู้เป็นตา พร้อมกับตะโกนว่าหากไม่นำเงินมาให้ จะฆ่าให้ตายทั้งสองคน จากนั้นนายบุญส่ง เกิดความไม่พอใจจึงได้ไปเอาปืนมา เพื่อจะขู่ไม่ให้นายหนุ่ยเข้ามาทำร้าย แต่ได้เกิดการต่อสู้กันขึ้นทำให้ปืนลั่น 2 นัด กระสุนถูกเข้าที่แขนและมือของนายหนุ่ยได้รับบาดเจ็บ หลังนายหนุ่ยถูกยิงนายบุญส่งพยายามจะไปเอากระสุนปืนมาใส่ เพื่อยิงตัวเองหวังฆ่าตัวตายแต่ตนห้ามได้ทันเสียก่อน
ในเบื้องต้นนายบุญส่ง ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ ได้ให้การว่าหลานของตนพยายามจะเข้ามาทำร้ายตนและขู่เอาเงิน โดยนั่งคร่อมแล้วทุบตีทำให้ทนไม่ไหว จึงไปเอาปืนมาเพื่อจะยิงขู่ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.