วันที่ 24 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีดอกซากุระซึ่งทาง จ.เชียงราย นำไปปลูกเอาไว้ภายในศาลากลาง จ.เชียงราย ได้ผลิดอกบานเป็นต้นแรกเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น พบว่าต้นที่อยู่ติดกันได้ได้ผลิดอกตามมาเป็นต้นที่ 2 ด้วย ขณะที่ต้นแรกที่ผลิมาได้ร่วม 10 วันยังคงบานอยู่ตามปกติ ทำให้มีผู้คนที่สนใจหรือขับรถผ่านไปมาได้พบเห็นแล้วแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางจังหวัดได้เป็นรั้วรอบต้นและทำป้ายระบุข้อความสายพันธุ์ วันปลูกและวันผลิดอกรวมทั้งคำเตือนว่า “กรุณาอย่าแตะดอกและโน้มกิ่ง ให้ชืนชมความงามร่วมกัน” เนื่องจากเมื่อมีผู้คนไปชมกันมากขึ้นมีบางคนมักใช้มือสัมผัสซึ่งอาจทำให้ดอกหลุดร่วงได้ง่าย
นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่านับเป็นเรื่องที่ดีของ จ.เชียงราย อย่างมากที่ดอกซากุระซึ่งทางจังหวัดร่วมกับสมาคมซากุระประเทศญี่ปุ่นนำไปปลูกเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2557 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เบ่งบานขึ้นมา โดยต้นซากุระดังกล่าวทางยังจังหวัดได้รับมอบจากสมาคมดังกล่าวมาจำนวนประมาณ 1,000 ต้น และนำไปกระจายปลูกในศาลากลางจำนวนประมาณ 200 ต้น ที่เหลือนำไปปลูกที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง และสวนไม้งามริมน้ำกก อ.เมือง
รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนหน้านี้สำหรับต้นกล้าซากุระที่ทางจังหวัดได้รับมอบจากสมาคมดังกล่าวมีจำนวน 5 สายพันธุ์ และสายพันธุ์ที่ผลิดอกดังกล่าวคือสายพันธุ์ไทเรียวส่วนพันธุ์อื่นๆ ยังไม่มีการเบ่งบาน เพราะทางสมาคมแจ้งว่าตามปกติดอกซากุระจะผลิดอกบานในช่วงเดือน เม.ย.ของทุกปี สำหรับต้นที่นำไปปลูกที่ จ.เชียงราย เคยคาดการณ์ว่าจะผลิดอกเมื่ออายุได้กว่า 3-5 ปีแต่ปรากฎว่าหลังจากปลูกมาได้เพียงประมาณ 8-9 เดือนดังกล่าวกลับมีการผลิดอกจนเป็นที่น่าแปลกใจดังกล่าว.
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.