ที่ สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย พนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีไฟไหม้บ้านพักเด็กหญิงโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย จนทำให้นักเรียนหญิงชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาเสียชีวิตจำนวน 17 คน และบาดเจ็บ 5 คน เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาได้เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวไปสอบปากคำตลอดทั้งวัน โดยผู้ที่ถูกสอบปากคำมีทั้งนางพิมพ์ วาสนา ผู้อำนวยการโรงเรียน นายเรวัฒน์ วาสนา ผู้จัดการโรงเรียน ครูสอนภายในโรงเรียน ครูเวรผู้นอนเฝ้าเด็กในบ้านพักหลังที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาล ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า ฯลฯ อย่างไรก็ตามแม่บ้านที่มีหน้าที่ดูแลบ้านในคืนเกิดเหตุต้องอยู่เฝ้าเด็กที่ป่วยคือ ด.ญ.นรินทิพย์ อาจู ชั้น ป.3 และ ด.ญ.รดา อาเซาะ ชั้น ป.4 ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีไฟคลอกลำตัว 23% และหมดสติเพราะสูดดมควันจนต้องรักษาตัวในห้องผู้ป่วยวิกฤติหรือไอซียูแต่พ้นขีดอันตรายแล้วจึงไม่ได้ไปให้ปากคำพร้อมคนอื่นๆ
โดย น.ส.สุชาดา แซ่มั่ว อายุ 22 ปี ตำแหน่งพิเศษซึ่งเป็นครูเวรที่นอนเฝ้าเด็กในคืนเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บกระดูกหลักหักต้องใช้ไม้เท้าเดินไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่าคืนเกิดเหตุได้นอนพักอยู่กับเด็กอยู่ในห้องๆ หนึ่งตามปกติและเด็กเริ่มทะยอยเข้าหลับนอนกัน แต่ปรากฎว่าได้มีเด็กหญิงคนหนึ่งไปพบเห็นว่าเกิดไฟไหม้จึงได้ตะโกนเรียกคนอื่นๆ และแจ้งให้ตนทราบ ตนจึงไปตรวจดูพบมีกลุ่มควันไฟคละคลุ้งไปทั่วบริเวณและมีประกายไฟจากชั้นแรกตรงบันไดลง
น.ส.สุชาดา กล่าวว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมากจนแทบจะหลงทิศทาง แต่ตนก็ตั้งสติและพาเด็กๆ ไปที่หน้าต่างแล้วร่วมกับเด็กๆ ทำเชือกจากเสื้อผ้าร้อยกันลงมาเพื่อห้อยโหนลงไปทีละคนๆ ซึ่งไม่อาจทราบได้ว่าสามารถห้อยลงไปได้กี่คนและเหลืออีกกี่คนเพราะเหตุการณ์ฉุกละหุกอย่างมาก และก่อนที่จะช่วยเหลือเด็กคนอื่นๆ ตนก็หมดสติขณะอยู่ที่ขอบหน้าต่างและตกลงไปกระแทกพื้นไม่รู้สึกตัวอีกเลย โดยตนมารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าไฟลุกไหม้บนตัวบ้านดังกล่าวแล้วซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะบนบ้านมีน้องสาวของตนชื่อ ด.ญ.อรทัย แซ่มั่ว ชั้น ป.3 เสียชีวิตไปพร้อมกับ ด.ญ.ผกายทิพย์ ไทยเรืองสุข ชั้น ป.2 ซึ่งเป็นหลานสาวของตนด้วย
วันเดียวกันทาง พ.ต.อ.ประทักษ์ เจริญศิลป์ รอง ผบก.ภ.เชียงราย นายวรวรรณ วงศ์คำ หัวหน้าแผนกก่อสร้างและปฏิบัติการ รักษาการแทนผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาเวียงป่าเป้า พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการด้านกระแสไฟฟ้าในบริเวณบ้านพักหลังเกิดเหตุเพื่อดูว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดไฟไหม้หรือไม่ ซึ่งหลังการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ กฟภ.ระบุว่ากรณีมีกระแสข่าวว่าหลอดไฟที่อยู่ชั้นล่างของตัวบ้านทำให้เกิดประกายไฟและลุกไหม้วัตถุจนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามนั้นเป็นไปได้น้อยมาก เพราะหลอดไฟแทบไม่มีทางแตกเพราะความร้อนได้เอง แต่สิ่งที่อาจจะเกิดความรอนกระเทาะออกมาคือรางหลอดด้านซ้ายและขวางที่เป็นฉนวนของรางโลหะแต่ก็ถือว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก กระนั้นผลสรุปที่แท้จริงต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานยืนยันมาอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.