หม่อมหลวงปนัดดา ดิสกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังตรวจดูเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านพักนักเรียนหญิงโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย จนทำให้เด็กหญิงชั้นอนุบาล-ป.6 เสียชีวิต 17 คนและบาดเจ็บ 5 คน เหตุเกิดวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เดินทางไปสถานที่แรกที่หอประชุมโรงเรียนเวียงป่าเป้าวิทยาคม อ.เวียงป่าเป้า เพื่อพบปะกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและญาติของผู้สูญเสีย โดยทางหม่อมหลวงปนัดดาได้มอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยให้ครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตรายละ 15,000 บาท เงินค่าสินไหมทดแทนจากบริษัท สยามซิตี้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) 2 กรมธรรม์ๆ ละ 100,000 บาท โดยเป็นกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุนักเรียนกรณีเสียชีวิต กรมธรรม์ความรับผิดชอบของสถานศึกษาให้อีกรายละ 100,000 บาท และเงินช่วยเหลือส่วนตัวจาก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้อีกจำนวนหนึ่งด้วย
จากนั้นหม่อมหลวงปนัดดาได้ไปพบปะพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลดใจ โดยทางรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้พยายามปลอบใจให้ญาติโดยเฉพาะมารดาของเด็กที่สูญเสียได้ทำใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ โดยทุกฝ่ายเสียใจและพร้อมเป็นกำลังใจให้ ขณะเดียวกันทางหม่อมหลวงปนัดดาเองก็ทนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวโดยได้ร้องไห้ในบางช่วงที่ไปพูดคุยกับผู้สูญเสียโดยเฉพาะเมื่อทราบว่าบางคนสูญเสียลูกผู้หญิงไป 2 คนพร้อมๆ กันในเหตุการณ์นี้ด้วย จากนั้นได้เดินทางไปดูอาคารที่เกิดเหตุไฟไหม้ดังกล่าวพบว่าไฟไหม้หนักบริเวณห้องครัวและทางขึ้นบันไดเชื่อมจากชั้น 1 ขึ้นสู่ชั้น 2 ของบ้านพัก
หม่อมหลวงปนัดดา กล่าวว่าครั้งนี้เป็นการนำความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรีมาแจ้งต่อผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้สูญเสียซึ่งบางคนเสียลูกหญิงไปถึง 2 คน ซึ่งเรื่องแบบนี้ทุกฝ่ายเข้าใจเรื่องอกเขาอกเราโดยหากผู้ใดไม่อยู่ในเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่อาจเข้าใจได้ กระนั้นเมื่อเกิดขึ้นก็ต้องพยายามฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปให้ได้ ส่วนในอนาคตทุกฝ่ายโดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนต้องเอาใจในเรื่องการใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความทันสมัยไม่เก่าจนเสี่ยงต่ออันตราย เช่น หลอดไฟฟ้า สายไฟ ฟ้า ฯลฯ ไม่ให้ตกสมัยจนมากเกินไปขณะเดียวกันควรมีระบบตัดไฟกรณีระบบไฟเกิดปัญหาเพื่อให้มีความปลอดภัย 100%
หม่อมหลวงปนัดดา กล่าวอีกว่าสำหรับสถานที่ที่เกิดเหตุในครั้งนี้ว่าเมื่อดูจากสภาพแล้วก็คงจะคาดเดากันได้ไม่ยากว่าจะต้องทำดำเนินการอย่างไต่อไป และหากจะมีการดำเนินการใดๆ ต่อผู้บริหารก็ต้องพิจารณาขบคิดกันให้มาก เพราะสภาพที่เห็นมีผลต่อจิตใจอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพจิตที่ต้องปรับเรื่องความกลัวกันให้มาก เช่นเดียวกับสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนใน 77 จังหวัดและกรุงเทพฯ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งด้านมาตรการและวัสดุอุปกรณ์กันให้มากขึ้นด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าวันเดียวกันโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ได้เคลื่อนย้ายศพเด็กหญิงจำนวน 4 คน ไปไว้ที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้าเพื่อเตรียมมอบให้ผู้ปกครองนำไปจัดการตามประเพณีที่ภูมิลำเนา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 คน นอนพักที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้าจำนวน 3 คนพร้อมบาดเจ็บเล็กน้อยคือ ด.ญ.สุวนันท์ วุยยือ ชั้น ป.3 ด.ญ.นิภาพร วุยยือ ชั้น ป.3 ด.ญ.สุปวีร์ อาจอ ชั้น ป.6 ส่วน ด.ญ.นรินทิพย์ อาจู ชั้นอนุบาล 3 และ ด.ญ.รดา อาเซา ชั้น ป.4 ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้วโดยหนึ่งในนั้นยังอยู่ในห้องไอซียูและอีกคนออกมานอนพักที่ห้องผู้ป่วยทั่วไปแล้ว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.