เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจเข้มชายแดนแม่น้ำโขง พบ นทท.เดินทางเข้า-ออก พรมแดนเป็นปกติ คาดเก็บค่าธรรมเนียมได้ 150 ล้าน/ปี

เวลา 10.00 น.วันที่ 2 ก.พ.61 ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ยังคงมีการเข้าออกบริเวณด่านตามปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่มีการทำเรื่องผ่านแดนนเข้าออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ได้มีการตรวจอย่างเข้มงวด ทั้งการตรวจบุคคล หนังสือเดินทาง รวมทั้ง การตรวจกระเป๋าเดินทาง โดยเฉพาะขาเข้าประเทศไทย และบริเวณด้านหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็มีรถตู้ซึ่งติดสติเกอร์คิงส์ โรมัน มาบริการนักท่องเที่ยวที่ข้ามกลับมาฝั่งไทย

น.อ.วุฒิชัย ภู่เจริญยศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย (นรข.เขตเชียงราย) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ศูนย์ปฏิการปราบปรามการกระทำผิดตามลำน้ำโขง (ศปปข) สถานีตำรวจภูธรเชียงแสน และตำรวจน้ำเชียงแสน นำเรือตรวจการ ออกลาดตระเวนในแม่น้ำโขง ตั้งแต่สามเหลียมทองคำ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จนถึงหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน รวมระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวรวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ในการเดินทางข้ามฝั่งไปมา ระหว่าง ไทยและ สปป.ลาว บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งการจัดเรือออกลาดตระเวณครั้งนี้เป็นไปตามการปฎิบัติงานร่วมกันของทุกฝ่ายในประเทศไทย

โดยการลาดตระเวน ทางเจ้าหน้าที่จะจัดแบ่งเวลาในการออกลาดตระเวนตลอดทั้งวัน ในน่านน้ำแม่น้ำโขงในเขตรับผิดชอบ รวมทั้งในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด การหลบหนีเข้าเมือง และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีเรือตรวจการเร็วที่คอยสนับสนุนประจำสถานีเรือเชียงแสน (นรข) หากเกิดเหตุหรือรับแจ้งเหตุก็สามารถออกปฎิบัติงานได้ทันที

น.อ.วุฒิชัย กล่าวว่าตามปกติเจ้าหน้าที่ นรข.จะปฏิบัติงานในแม่น้ำโขงและริมฝั่งเป็นปกติอยู่แล้วดังนั้นกรณีที่มีการขึ้นบัญชีดำต่อกลุ่มคิงส์ โรมันส์ ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านนั้นจึงไม่มีผลใดๆ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงลาดตระเวณตามลำแม่น้ำโขงภายใต้มาตรการที่ค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งจากผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติตามแนวชายแดนด้านนี้ ดังนั้นการที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการดำเนินการดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไทยแต่อย่างใด

พ.ต.อ.ณัชธฤต ปิ่นปัก ผกก.ตม.เชียงแสน กล่าวว่าในปัจจุบันการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่ด่านพรมแดนสามารถตรวจสอบบุคคลที่มีบัญชีดำ บัญชีให้เฝ้าจับตา ทำให้สามารถคัดกรองผู้ที่ข้ามแดนไปมาได้อย่างละเอียดซึ่งหากเป็นคนที่กระทำผิดกฎหมายหรือบัญชีดำดังกล่าวสามารถจับกุมได้ ซึ่งยืนยันว่าระบบยังคงถูกใช้ตรวจสอบอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด ประกอบกับการบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามช่องทางอนุญาตที่มีนักทองเที่ยวเข้าและออก ยังมีการเอ๊กซเรย์ผู้สัญจรทุกรายได้

ด้วยความสำคัญในแง่ของการป้องกันการกระทำผิดโดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ ค้ามนุษย์ ยาเสพติดของชายแดนด้านนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยังได้สนับสนุนเรือยนต์ให้กับ ตม.เพื่อนำมาใช้สนับสนุนปฏิบัติการสนับสนุนภารกิจป้องกันกระทำความผิดในแม่น้ำโขงด้าน จ.เชียงราย เพิมเติม โดยจะได้รับในช่วงเดือน เม.ย.นี้

“ปัจจุบันในแต่ละวันจะมีคนข้ามฝั่งไปมาโดยมีทั้งนักท่องเทียวต่างชาติและคนไทย คนไทยจะใช้บัตรแผ่นแดนและชาวต่างชาติจะใช้วีซ่า โดยคนต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน ซึ่งหลังมีข่าวการขึ้นบัญชีดำการประสานงานกับฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็ยังคงเป็นปกติ ทำให้เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติงานกันตามปกติโดยไม่มีผลกระทบในแง่ของการปฏิบัติเพราะก็เข้มงวดเรื่องเหล่านี้กันอยู่แล้ว จากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะสามารถเก็บค่าธรรมเนียมเป็นรายได้แผ่นดินได้มากกว่าปีที่แล้วถึง3เท่า คือประมาณ 150 ล้านบาท ” พ.ต.อ.ณัชธกฤต กล่าว

แสดงความคิดเห็น